ทำเนียบรัฐบาล 26 ก.ย. – “พีระพันธุ์” เผย สส.ก้าวไกล ห่วงราคาพลังงาน เสนอแนวทางแก้ปัญหาให้ปชช.ได้รับความเป็นธรรม ชี้แนวทางตรงกันเตรียมทำอยู่แล้ว จ่อลดเบนซินใช้เกณฑ์กลุ่มผู้มีรายได้น้อย คาดชัดเจนเดือนหน้า
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังนายศุภโชติ ไชยสัจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลเข้าหารือเรื่องนโยบายด้านพลังงาน ว่า สาเหตุที่เชิญมาหารือวันนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากวันที่ 28 ก.ย. อาจจะไม่มีเวลาไปตอบกระทู้สดในสภาผู้แทนราษฎร จึงเชิญ สส.พรรคก้าวไกลมาชี้แจงและร่วมหารือกัน สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก็ต้องรับฟัง เพื่อรับทราบข้อเสอนแนะและข้อห่วงใย เพราะบางเรื่องรอไม่ได้ ซึ่งข้อห่วงใยของนายศุภโชติมีประเด็นที่ตรงกับข้อห่วงใยของตน เพราะกำลังจะทำแนวทางที่นายศุภโชติเสนอเช่นกัน การพูดคุยก็เป็นไปด้วยดี และข้อเสนอตรงกัน โดยเฉพาะแผนร่วมลงทุน หรือ PPP
“สส. พรรคก้าวไกลได้เสนอแผนร่วมลงทุน จึงให้ไปจัดทำรายละเอียด เพื่อนำเสนอมา จะได้มีข้อมูลที่ชัดเจน และผมยินดีที่จะทำเรื่องนี้ไปพิจารณาประกอบการดำเนินนโยบายต่อไป นอกจากนี้ยังเสนอแนะว่าหลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการลดราคาพลังงานไปแล้ว ควรจะมีมาตรการระยะยาว ซึ่งตรงกับสิ่งที่ผมคิดไว้ แต่โครงสร้างพลังงานในปัจจุบันปรับลดราคาในช่วงนี้ดีกว่าไม่คิดจะทำอะไรเลย และเห็นพ้องกันว่าควรต้องทำต่อ” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันต้องเตรียมแก้ไขปัญหาก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะก๊าซที่นำเข้ามาใช้ในภาคครัวเรือน การนำมาผลิตไฟฟ้า จะต้องปรับแผนเพื่อให้ประชาชนใช้ก๊าซที่มาจากอ่าวไทยให้มากขึ้น ในราคาที่ถูกลง ซึ่งเรื่องดังกล่าวตรงกับนโยบายของตนอยู่แล้ว แต่เรื่องทั้งหมดต้องใช้เวลาในการทำงาน เพราะเพิ่งเข้ามารับหน้าที่เพียง 10 กว่าวัน ซึ่งข้อเสนอและนโยบายที่มีตรงกันหมด ยืนยันว่าการลดราคาพลังงานที่ผ่านมา ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน เรื่องนี้สส.พรรคก้าวไกลเข้าใจและรู้ว่ามีวิธีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างไร ขณะเดียวกันโครงสร้างราคาพลังงานจะต้องปรับเปลี่ยน เพราะใช้มานานแล้ว จึงจำเป็นต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงภายใต้เงื่อนไขที่ว่าคนไทยต้องได้รับประโยชน์
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนการเดินทางเยือนกัมพูชาของ นายกรัฐมนตรี วันที่ 28 ก.ย.นี้ จะไม่มีการหารือในประเด็นพลังงานในเขตพื้นที่ทางทะเลในอ่าวไทย ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในเขตไหล่ทวีป หรือ OCA
ส่วนการลดราคาน้ำมันเบนซิน นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากกรมธุรกิจพลังงานว่ามีความเป็นไปได้ แต่ตนพยายามทำความเข้าใจหลายเรื่อง เพราะคิดว่าผิดกับหลักตรรกะ แต่จะพยายามทำงานประสานความเข้าใจกันให้ได้ น้ำมันเบนซิลมีหลายตัว หลายเกรด และหลายราคา มีโครงสร้างที่หลากหลาย จึงสั่งการให้เอาน้ำมันเบนซินชนิดที่ถูกและต่ำที่สุดเป็นเกณฑ์ แล้วคิดว่าราคาน้ำมันตัวนี้จะทำอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
“ในอดีตมองในมุมของวินจักรยานยนต์ และเกิดปัญหาในขั้นตอนการลงทะเบียน ผมจึงย้ำว่าไม่ได้มีแค่วินจักรยานต์ที่ใช้น้ำมันชนิดนี้ เพราะมีอีกหลายอาชีพที่ใช้ เช่น อาชีพรับส่งอาหาร แต่ที่สำคัญ หากมีปัญหาเรื่องเกณฑ์การลดราคา ผมจึงสั่งการให้ใช้เกณฑ์ของผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเรื่องนี้น่าจะทำได้ จึงมั่นใจว่าหลังจากมอบโจทย์ไปแล้ว กรมธุรกิจพลังงานน่าจะหาแนวทางออกมาได้ โดยกำหนดเวลาว่าต้องได้คำตอบภายในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งแสดงถึงข้อห่วงใยของผมและนายกรัฐมนตรีที่ลงมือทำอย่างจริงจัง ตั้งใจทำงานจริง ดีกว่านั่งเฉย ๆ” นายพีระพันธุ์ กล่าว
ด้านนายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า การหารือภาพรวมเป็นไปด้วยดี ซึ่งนายพีระพันธุ์รับฟัง โดยนำปัญหาที่ได้รับจากการร้องเรียนของประชาชนมาแจ้งให้นายพีระพันธุ์ทราบ โดยเฉพาะปัญหาราคาค่าไฟแพง ซึ่งเรื่องนี้ต้องมองเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งอาจแพงจากราคาเชื้อเพลิงพลังงาน แต่สิ่งสำคัญต้องพิจารณา คือราคาค่าไฟที่แพง เป็นธรรมหรือไม่ และสามารถอธิบายให้ประชาชนได้เข้าใจได้หรือไม่ ซึ่งในส่วนของพรรคก้าวไกลเห็นว่ายังไม่เป็นเช่นนั้น จึงเสนอวิธีการที่จะทำให้ค่าไฟเป็นธรรมกับประชาชนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน การเจรจาแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เพื่อลดค่าความพร้อมจ่ายซึ่งนายพีระพันธุ์ รับจะนำไปพิจารณา
“พรรคก้าวไกลเสนอแนวทางแก้ปัญหาพลังงานระยะยาว เพราะเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง จึงเสนอให้ปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ การถัวเฉลี่ยต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ การทำแผนพลังงาน ลดการผูกขาด การเปิดตลาดเสรีซื้อขายไฟฟ้าในอนาคต และทำให้ประชาชนมีตัวเลือกมากขึ้น และเกิดสภาวะ การแข่งขันในภาคพลังงาน ส่วนมาตรการที่รัฐบาลลดค่าไฟจาก 4.10 บาท เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ผมเห็นด้วยว่าเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ควรทำ แต่เรื่องที่ว่า จะเอาเงินส่วนไหนมาชดเชยตรงนี้ นายพีระพันธุ์ขอไปศึกษาก่อน” นายศุภโชติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย