กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – แอร์บัสคาดความต้องการเครื่องบินทางยุทธวิธีอีก 20 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังเกิดเหตุก่อการร้าย ขณะเดียวกันยังไม่เปิดเผยแผนลงทุนอู่ตะเภา
นายเฟอร์นานโด ซิเรีย หัวหน้าฝ่ายการตลาดเครื่องบินลาดตระเวนและตรวจการณ์และเครื่องบินขนส่งทางอากาศแบบยุทธวิธี บริษัท แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ เสปซแอร์บัส กล่าวว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้าความต้องการเครื่องบินทางยุทธวิธีขนาดกลางทั่วโลกจะมีถึง 1,200 ลำ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากความต้องการปรับเปลี่ยนฝูงบินเก่าทางการทหารและเครื่องบินตรวจการณ์เพิ่มขึ้นและทันสมัยมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงทางการทหาร หลังจากมีเหตุการณ์ก่อการร้ายเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (4 ก.ค.) แอร์บัสได้นำเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเลประสิทธิภาพสูงอย่างแอร์บัส ซี 295 บินโรดโชว์ทั่วน่านฟ้าทวีปเอเชีย ตลอด 2 สัปดาห์ โดยไทยเป็นประเทศแรกที่แอร์บัสนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมาลงจอดที่สนามบินอู่ตะเภาเมื่อวานที่ผ่านมา ทั้งนี้ แอร์บัสยังไม่สามารถเปิดเผยเรื่องความสนใจการลงทุนต่าง ๆ ในสนามบินอู่ตะเภา พร้อมมองว่าเครื่องบินรุ่นนี้ถือเป็นทางเลือกดีที่สุดสำหรับประเทศไทยในการตรวจการณ์เขตทางทะเล ปกป้องน่านน้ำ ภารกิจค้นหาและช่วยเหลือ ทั้งยังเหมาะลำเลียงกำลังพลและสิ่งของ การอพยพทางการแพทย์ ภารกิจการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม และปฏิบัติการโปรยน้ำทางอากาศในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากแอร์บัสยังไม่เปิดเผยว่าการมาโรดโชว์ครั้งนี้ทางกองทัพไทยมีความสนใจที่จะสั่งซื่อเครื่องบินรุ่นนี้หรือไม่ แต่ได้มีการหารือกับกระทรวงกลาโหมเบื้องต้นแล้ว และคาดว่ากองทัพเรือและกองทัพอากาศจะมีความสนใจ หลังจากกองทัพบกมีเครื่องบินรุ่นนี้ประจำการ 1 ลำ .-สำนักข่าวไทย
