คปท.จี้นายกฯ ส่ง “ทักษิณ” กลับคุก

สำนักงาน ก.พ.ร. 13 ก.ย.-แกนนำ คปท. จี้นายกฯ ต้องรักษาความยุติธรรม ส่ง “ทักษิณ” กลับคุก รับโทษตามกฎหมาย บี้หมอใหญ่ รพ.ตำรวจ พูดความจริงป่วยหนักจริงหรือไม่ ขอสังคมตรวจสอบใช้อภิสิทธิ์ลอยนวลพ้นผิด


นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และบรรดาแกนนำ คปท. เข้ายื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งสร้างความยุติธรรม ด้วยการนำตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเรือนจำเพื่อรับโทษตามกฎหมาย โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือที่ รพ.ตำรวจ และกระทรวงยุติธรรม มาแล้ว

นายพิชิต กล่าวว่า จากการติดตามกรณีนายทักษิณ ที่กลับเข้ามารับโทษตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้รับการพระราชทานลดโทษแล้ว แต่ยังมีโทษเด็ดขาดต้องจำคุก 1 ปี แต่ผ่านไปกว่า 20 วันแล้ว ยังไม่เข้าสู่เรือนจำแม้แต่วันเดียว จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการเอื้อประโยชน์ สมคบคิดหรือไม่ เพราะทันทีที่นายทักษิณ กลับมาถึงไทยเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทางกรมราชทัณฑ์ก็พาออกจากเรือนจำ โดยอ้างว่าป่วย ดังนั้น คปท. จึงมายื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายอย่างชัดเจนว่า จะยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม กระบวนการยุติธรรมต้องมีความเท่าเทียมกัน


“แม้นายทักษิณ จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่นายเศรษฐาจะปฏิเสธความรับผิดชอบกรณีการลงโทษนายทักษิณไปไม่ได้ จึงขอให้เร่งรัดนำตัวนายทักษิณ กลับเข้าเรือนจำ เร่งติดตามตัวนักโทษการเมืองอื่นๆ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และตรวจสอบข้าราชการที่เอื้อประโยชน์ เอื้ออำนวยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการสมคบคิดกันหรือไม่ เพราะนายทักษิณ กลับมาถึงไทยเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทางกรมราชทัณฑ์ก็พาออกจากเรือนจำ โดยอ้างว่าป่วย หลังจากนั้น คุณอุ๊งอิ๊ง ก็ไปเยี่ยมพ่อที่ รพ.ตำรวจ ว่ามีอาการอ่อนเพลียเท่านั้น ซึ่งอาการแบบนี้ ผมคิดว่าโรงพยาบาลในเรือนจำก็สามารถรักษาได้ ไม่ใช่อาการหนักอย่างที่ราชทัณฑ์ หรือหมอใหญ่ที่ รพ.ตำรวจ ออกมาแถลง ดังนั้น เป็นเรื่องที่นายเศรษฐา ต้องรักษาความยุติธรรมให้ได้” นายพิชิต กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่าการที่นายทักษิณ มาอยู่ที่ รพ.ตำรวจ เป็นกระบวนการนอกเหนือกฎหมายหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า เขาอ้างว่าใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ แต่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำหลายคน กว่าจะเข้าถึงระเบียบนี้ได้ ไม่ใช่ว่านักโทษทุกคนจะใช้ระเบียบนี้ได้ เจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.ราชทัณฑ์ ดังนั้น เป็นการเอื้อประโยชน์สมคบคิดแล้ว ถ้านายทักษิณหายป่วยแล้วก็ควรกลับเข้าเรือนจำ

เมื่อถามว่า หากนายทักษิณ อยู่ที่ รพ.ตำรวจ จนครบระยะเวลาโทษที่เหลือ 1 ปี จะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า เรื่องนี้สังคมต้องตรวจสอบ และ คปท.จะเคลื่อนไหวเรื่องนี้ตลอด ที่สำคัญหมอใหญ่ รพ.ตำรวจ ในฐานะที่เป็นแพทย์ ขอให้พูดความจริงว่า นายทักษิณป่วยหนักขนาดนั้นจริงหรือไม่ เราไม่ได้คัดค้านสิทธิในการได้รับการรักษาของนักโทษที่ป่วย แต่ระเบียบของราชทัณฑ์ก็มีว่า ต้องเข้า รพ.ของราชทัณฑ์ มากน้อยแค่ไหน ซึ่งนายทักษิณ ในฐานะนักโทษเด็ดขาด ต้องเข้าเรือนจำตามกระบวนการตามระเบียบ.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]