กรุงเทพฯ 2 ก.ค.-ประธานอนุกก.ประชาสัมพันธ์ปรองดองฯ เผย ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเรื่องปากท้อง ต้องลดความเหลื่อมล้ำ บังคับใช้กม.เท่าเทียม
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์การสร้างความสามัคคีปรองดอง เปิดเผย ผลสรุปการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสะท้อนข้อคิดเห็นและมุมมองของการสร้างความสามัคคีปรองดองในด้านเศรษฐกิจและสังคม ผ่านเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศที่ผ่านมา ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและกล่าวถึงมากโดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ การดำเนินชีวิตและการกินดีอยู่ดีของประชาชน
“หากไม่ได้รับการดูแลหรือปรับปรุงให้เท่าเทียม เป็นธรรม จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การแบ่งฝ่ายและความขัดแย้งในอนาคต เช่น ความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ การจัดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานจากภาครัฐ ผลกระทบจากปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ รวมทั้งความไม่เท่าเทียมด้านสวัสดิการที่รัฐจัดสรรให้แก่ประชาชน เช่น การกระจายรายได้ระหว่างประชาชนในสังคมเมืองกับสังคมชนบท สภาพความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ซึ่งการรวมศูนย์อำนาจการบริหารจัดการไว้ที่ส่วนกลางมากเกินไป ทำให้บางนโยบายไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน” พล.ต.คงชีพ กล่าว
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ประชาชนมีความเห็นร่วมกันว่ารัฐจำเป็นต้องส่งเสริมความรู้และกระจายรายได้สู่ชนบท ด้วยการส่งเสริมการเกษตรอุตสาหกรรมและพัฒนาการแข่งขันผ่านนวัตกรรมมากให้ขึ้น เพิ่มศักยภาพการผลิตลดต้นทุน สร้างรายได้ สร้างโอกาสทางอาชีพให้คนในท้องถิ่น สนับสนุนแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ โดยควบคุมต้นทุนทางการเกษตร หาตลาดใหม่ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือและการมีส่วนร่วมระหว่างเอกชนและประชาชนให้มากขึ้น พร้อมทั้งเข้ามาสนับสนุนจัดการด้านการตลาดและระบบขนส่งให้เอื้อต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจ
“ประชาชนยังเสนอการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่ ให้สามารถกระจายความเท่าเทียมและเสริมความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจฐานราก โดยปรับระบบจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ให้ความสำคัญกับการขยายโอกาสด้านเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยใช้ระบบสหกรณ์หรือการรวมกลุ่ม ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ” พล.ต.คงชีพ กล่าว
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ด้านสังคม มีความเห็นร่วมกันว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสิ่งจำเป็น โดยรัฐควรเปิดกว้างรับฟังและให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจและแสดงความคิดเห็นได้มากขึ้น สร้างความไว้ใจ เชื่อใจและเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ขณะเดียวกันควรเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวและชุมชนให้อบอุ่น แน่นแฟ้นและเกื้อหนุนจุนเจือกัน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยใช้กีฬาเป็นเครื่องมือพัฒนาคุณภาพประชาชนควบคู่กับการส่งเสริมให้เยาวชนมีจิตสำนึกสาธารณะและรู้หน้าที่ตนเพื่อสังคม
“กระจายความเท่าเทียมด้านสังคมด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรมกับทุกฝ่าย ไม่เลือกปฏิบัติ เคารพในหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกระดับ ปรับปรุงภาคบริการ สวัสดิการและการเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างทั่วถึง เท่าเทียม รวมทั้งส่งเสริมให้มีประชาคมระดับต่าง ๆในการพูดคุยคลี่คลายปัญหาและความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยรัฐเข้าไปสนับสนุนให้เป็นรูปธรรม ไม่ให้ถูกใช้เป็นเงื่อนไขเพื่อประโยชน์ทางการเมือง” พล.ต.คงชีพ กล่าว
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ประชาชนคาดหวังต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมร่วมกัน โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนอย่างจริงจัง เพื่อขับเคลื่อนภาคการเกษตรต่อเนื่องไปยังภาคอุตสาหกรรม ควบคู่กับการเสริมสร้างความเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคลและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งจะนำไปสู่การปรับตัวของสังคม เพื่อคลี่คลายปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เป็นรูปธรรมต่อไป.-สำนักข่าวไทย