สุราษฎร์ธานี 1 ก.ค. – ตำรวจยืนยันผลชันสูตรนักท่องเที่ยวเบลเยี่ยม ผูกคอตายเอง แม่ผู้ตายเผยลูกสาวเข้าลัทธิหนึ่งของอินเดีย มีพฤติกรรมแปลก เคยพยายามจะให้รถไฟชนเพื่อฆ่าตัวตายมาแล้ว
วานนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามคดีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยี่ยมผูกคอตายเสียชีวิตบนเกาะเต่า โดยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ได้มีรายงานจากกรณีสื่อออนไลน์ สมุยไทม์ และ CSILA นำเสนอข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยี่ยมบนเกาะเต่าเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 60 โดยได้ตั้งข้อสงสัยของการเสียชีวิตของแหม่มสาวรายนี้ว่าตายอย่างปริศนา
พ.ต.ท.นภา เสนารักษ์ รอง ผกก.(สอบสวน) เกาะเต่า เปิดเผยว่า น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน อายุ 30 ปี สัญชาติเบลเยี่ยม เดินทางเข้าเกาะเต่าตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.60 เข้าพักที่ทริปเปิ้ลบี บังกะโล ในช่วงบ่าย แต่พอถึงกลางคืน เวลาประมาณ 21.00 น. ได้เกิดไฟไหม้ที่บังกะโลไม้ไผ่สภาพเก่า เสียหาย 4 หลัง จากการตรวจสอบต้นเพลิงมาจากห้องของ น.ส.เอลิส สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ช่วงเกิดเหตุเพลิงไหม้ผู้ตายก็วิ่งหนีออกจากห้องพักพร้อมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ก่อนจะหายตัวไป ผ่านไปจนถึงวันที่ 27 เม.ย. 60 ก็มีผู้มาพบศพ น.ส.เอลิส แขวนคอเสียชีวิตอยู่บนเนินเขา หลั่งอ่าวโตนด ม.3 ต.เกาะเต่า เจ้าหน้าที่จึงได้ชันสูตรพลิกศพ และส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทำการตรวจอย่างละเอียด หาดีเอ็นเอที่ซอกเล็บ ตรวจหาร่องรอยทุกส่วนของร่างกายรวมทั้งอวัยวะเพศ แพทย์ผู้ตรวจก็มีความเห็นไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ สภาพร่างกายไม่มีรอยถูกทำร้าย หรือกระดูกหัก และเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจเพราะผูกคอตาย
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลังพบศพผู้ตายพบว่า ในวันที่ 21 เม.ย. 60 เวลา 08.01 น. ผู้ตายไปซื้อข้าวกล่องกับน้ำเปล่า และซื้อตั๋วเรือ บริษัทเรือเร็วลมพระยา กับโรงแรมโพไซดอน ม.3 ต.เกาะเต่า เพื่อที่จะเดินทางในวันที่ 24 เม.ย. เวลา 14.30 น.
วันเดียวกัน เวลา 09.03 น. ผู้ตายเดินผ่านกล้องวงจรปิดหน้ามนต์ทะเลรีสอร์ต ม.3 ต.เกาะเต่า โดยจุดนี้กล้องวงจรปิดจับภาพสุดท้ายของผู้ตายได้ มีระยะห่างจากจุดที่พบศพเพียง 200 เมตร หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็น หรือกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ตายได้อีก และตรวจสอบกับบริษัทเรือเร็วลมพระยา ก็ไม่พบการใช้ตั๋วเดินทางดังกล่าว จนกระทั้งมาพบศพในวันที่ 27 เม.ย. 60 จากการสอบปากคำนางมิเชล ฟาน เอทเทน มารดาของผู้ตาย ยังได้กล่าวขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย และก็ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตของบุตรสาว ซึ่งนางมิเชล ได้ให้ข้อมูลว่า น.ส.เอลิส บุตรสาว ได้ไปเข้าลัทธิกับกลุ่มเพื่อนที่ประเทศอินเดีย หลังจากนั้นก็มีพฤติกรรมแปลกๆ จนมาทราบว่าครั้งหนึ่งผู้ตายพยายามฆ่าตัวตายด้วยการวิ่งให้รถไฟชนที่กรุงเทพมหานคร แต่มีคนช่วยไว้ได้. -สำนักข่าวไทย