ตลาดจับตาผลประชุม กนง.

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย คาดสัปดาห์หน้า 33.80-34.10 บาท ขณะที่หุ้นไทยมีแนวรับ 1,535-1,555 จุด ตลาดจับตาผลประชุม กนง.


บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา (26-30 มิ.ย.) เงินบาทขยับอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังคงอยู่ในกรอบแคบตลอดสัปดาห์ ทั้งนี้ เงินบาททยอยอ่อนค่าลงช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีสัญญาณสนับสนุนให้ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างไรก็ตาม เงินบาทสามารถลดช่วงติดลบลงบางส่วน และดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์มีปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอกว่าที่คาด นอกจากนี้ สัญญาณเตรียมคุมเข้มนโยบายการเงินของ ECB และ BOE ก็เป็นแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ทางอ้อมด้วยเช่นกัน สำหรับวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา เงินบาทอยู่ที่ 33.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 33.94 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน

สำหรับสัปดาห์หน้า (3-7 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาท 33.80-34.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศ น่าจะอยู่ที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ช่วงกลางสัปดาห์  ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญ ประกอบด้วย  ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิถุนายน ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน และรายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพฤษภาคม  นอกจากนี้ ตลาดน่าจะรอติดตามรายงานการประชุมเฟด รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตของหลายประเทศ อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐจะปิดทำการวันที่ 4 กรกฎาคม เนื่องในวันชาติสหรัฐ


ส่วนดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,574.74 ลดลงร้อยละ 0.48 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ  8.43 จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 42,086.31 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 565.71 จุด ลดลงร้อยละ 1.94 จากสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม SET Index กลับมาปรับลดลงช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและการปรับตัวลงของตลาดหุ้นในเอเชีย  

สำหรับสัปดาห์หน้า (3-7 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,555 และ 1,535 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,590 และ 1,600 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ กนง. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญ ได้แก่ รายงานการประชุมเฟด และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิถุนายน  ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ อาทิ PMI ภาคการผลิตของประเทศในยุโรปและเอเชีย และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

โยนลูกลงทะเล

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ข่าวแนะนำ

อีสาน อุณหภูมิลด 3-5 องศาฯ ภาคเหนือ-ตะวันออก ลดลง 1-3 องศาฯ

กรมอุตุฯ คาดมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากจีน จะแผ่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน อีสานและทะเลจีนใต้ในวันนี้ ทำให้อีสานอุณหภูมิลดลง 3-5 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาฯ ส่วนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

เลือกตั้ง อบจ.

วิเคราะห์ศึก อบจ.ศรีสะเกษ อาจถึงคราว “นายใหญ่” สิ้นมนต์ขลัง

นักวิชาการวิเคราะห์ศึก อบจ.ศรีสะเกษ อาจถึงคราว “นายใหญ่” สิ้นมนต์ขลัง การเมืองไม่เหมือน 20 ปีที่แล้ว ชี้วาทกรรมแบบเดิมๆ ไร้ผล ชาวเน็ตแชร์สนั่นพร้อมถามดังๆ จะ “ไล่หนู ตีงู กี่โมง”

สินค้าตรุษจีน

พาณิชย์ส่ง จนท.ตรวจเข้มราคาสินค้าช่วงตรุษจีน

กรมการค้าภายในลงพื้นที่เยาวราช ตรวจราคาสินค้าช่วงตรุษจีน พบราคาวัตถุดิบใกล้เคียงปีที่แล้ว ย้ำผู้ประกอบการปิดป้ายให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา