กทม. 26 ม.ค.-ผบ.ทอ. ย้ำเหตุผลเลือกจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพน เพราะมีเงื่อนไขที่ดีที่สุด คาดเตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ เชื่อ “ภูมิธรรม” เข้าใจกองทัพ
พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระบุถึงความคืบหน้าการเลือกจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของสวีเดนทดแทนเอฟ-16 กองบิน1 ที่จะปลดประจำการ ว่า อยู่ในช่วงของการดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพ็คเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง หรือ
direct offset
การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ รวมทั้งการชดเชยโดยอ้อม หรือ Indirect offset ซึ่งยังเป็นนามธรรมค่อนข้างมากจากมูลค่าที่สวีเดนเสนอมา โดยมองว่า การชดเชยตอบแทนที่ไทยจะได้รับทั้งเรื่องสินค้า และการท่องเที่ยว ต้องแปลงเป็นมูลค่าให้ได้และต้องเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ พร้อมย้ำว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าใจรูปแบบที่กองทัพอากาศใช้ตัดสินใจจัดซื้อเครื่องบินฝูงใหม่ โดยการคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น
นับตั้งแต่การคัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับกริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด
โดยให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า ซึ่งตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม
คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว ส่วนกริพเพนคือคำตอบสุดท้ายหรือไม่ จนถึงตอนนี้ถือว่าการเสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดคือ ‘กริพเพน’
ผู้บัญชาการทหารอากาศ ยังกล่าวถึงการเตรียมทดสอบการบินขึ้น-ลงบนถนนหลวงครั้งแรกของเครื่องบินกริพเพน ว่า ได้มีการวางแผนไว้นานแล้ว ซึ่งกริพเพนมีขีดความสามารถที่จะลงบนถนนหลวงได้ แต่พื้นถนนก็ต้องมีความพร้อมในระดับที่มีมาตรฐาน และจากการไปประชุม Gripen User’s Group Airship Conference ที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 และในการพูดคุยกับทางสวีเดน ถึงการนำกริพเพนลงถนน เพราะเราไม่รู้ว่าในโอกาสข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นสนามบินอาจถูกปิด ซึ่งเป็นมุมมองทางทหาร อาจจะไม่เกิดขึ้นแต่ถ้ามันเกิดขึ้นก็ต้องมีวิธีการที่ต้องปฏิบัติให้ได้ โดยต้องมีการวางแผนและสำรวจในหลายพื้นที่
โดยเบื้องต้นเล็งไว้ในพื้นที่ภาคใต้ แถวหาดใหญ่ เนื่องจากเป็นถนนที่มีความพร้อม และข้อดีที่สุดที่กองทัพอากาศได้รับคือความร่วมมือจากกระทรวงคมนาคมสำนักงานตำรวจแห่งชาติการไฟฟ้า หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่มองเห็นและตระหนักถึงเรื่องความมั่นคง ว่ามีความสำคัญ ในการวางแผนในอนาคต ซึ่งถนนจะต้องมีความตรง ยาวต่อเนื่อง หรือเป็นการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต แต่ไม่ใช่ กทม. แน่นอน”.-313.-สำนักข่าวไทย