นักวิเคราะห์เทน้ำหนัก กนง.ลดดอกเบี้ยปี 68 ครั้งเดียว

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เผยผลสำรวจนักวิเคราะห์เทน้ำหนัก กนง. ลดดอกเบี้ยปี 68 ครั้งเดียว ปัจจัยกดดันหุ้นไทย ทั้ง Fund Flows ไหลออก-การเมืองในประเทศ-การเมืองต่างประเทศ ขณะที่ไตรมาส 1/68 จับตานโยบายทรัมป์ 2.0-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ


นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนรวม 26 สำนักเกี่ยวกับมุมมองการลงทุนไตรมาส 1 ปี 2568 ผลสำรวจโดยสรุปดังนี้ โดยผู้ตอบแบบสำรวจทุกราย มองสมมติฐาน GDP ปี 2568 เป็นบวก ต่ำสุดที่ 2.4% สูงสุดที่ 3.3% ส่วนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยของปีนี้ 74.14 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล Risk Free Rate ที่ใช้ในการประเมินมูลค่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.60% Risk Premium ของตลาดหุ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 7.82%

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อทิศทางการลงทุนจนถึงสิ้นปี 2568 แบ่งเป็นปัจจัยบวก นำโดยทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ 76.92% ปัจจัยรองลงมาผลประกอบการ บจ. ปี 68 ที่ 73.08% ตามมาด้วยเศรษฐกิจภายในประเทศ 69.23% และทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกา 57.69% ตามลำดับ


ส่วนปัจจัยลบคือ Fund Flows จากต่างประเทศออกจากตลาดหุ้นไทย 74.07% รองลงมาการเมืองในประเทศ 69.23% ตามมาด้วยปัจจัยด้านการเมืองในต่างประเทศ 61.54% และการลดหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของประเทศสำคัญทั่วโลก 55.56% ตามลำดับ

ปัจจัยที่จับตามองเป็นพิเศษในไตรมาส 1 ปีนี้ คือการเข้ารับตำแหน่งและนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตามมาด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยและการลงทุนของภาครัฐ ส่วนคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ในสิ้นปี 2568 นั้นมีความเห็นต่างกันพอสมควร โดยผู้ตอบร้อยละ 54 คาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 2% ต่อปี รองลงมามองว่าปรับลดลงมาที่ 1.75% ถัดมาผู้ตอบร้อยละ 17 มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายคงที่ 2.25% ต่อปี และ 4% มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจปรับลดไปอยู่ที่ 1.50%

ด้านคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2567 ของตลาดเฉลี่ยได้ที่ 84.61 บาท ปรับลดจากผลสำรวจครั้ง
ก่อน ซึ่งอยู่ที่ 89.91 บาทต่อหุ้น และคาดว่า EPS Growth ของปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 12.22% ทั้งยังคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2568 ของตลาดเฉลี่ยไว้ที่ 94.95 บาท ขณะที่คาดการณ์หุ้นไทยมีแนวโน้มไปในทิศทางบวก โดยจะปิดสิ้นไตรมาสแรกที่ 1,449 จุด และมองตลอดปีจะแกว่งตัวในกรอบ 1,322-1,581 จุด โดยไปปิดสิ้นปี 2568 ที่ 1,556 จุด


นักวิเคราะห์แนะนำให้มีการกระจายพอร์ตการลงทุน แบ่งเป็นเงินสดและเงินฝากระยะสั้น 10.72% กองทุนตราสารหนี้ 22.00% หุ้นหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 29.56% หุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 22.52% กองทุนอสังหาฯ หรือ REIT 6.90% ทองคำหรือกองทุนทองคำ 8.10% สินทรัพย์อื่นๆ เช่น Bitcoin 0.20% ขณะที่การลงทุนต่างประเทศ แนะนำกองทุนหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะ AI-Technology และ Selective Asia เช่น จีนเกาหลี และเวียดนาม สำหรับในการลงทุนหุ้นไทยนั้น แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหมวดธุรกิจค้าปลีก รับเหมาก่อสร้าง ภาคบริการ การท่องเที่ยว เทคโนโลยีและการสื่อสาร ในขณะที่ให้ลดน้ำหนักการลงทุนในหมวดธุรกิจยานยนต์ พลังงานและปิโตรเคมี

รายชื่อหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 4 สำนักขึ้นไปมีดังนี้
-AOT มองว่าได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวฟื้นโดยเติบโตไปตามการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งในปี 2567 ททท. คาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่ 36 ล้านคน และปี 2568 ที่ 40 ล้านคน
-ADVANC มองว่าธุรกิจฟื้นตัว ต้นทุนต่ำลง มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ปลอดภัยจากนโยบายของทรัมป์ และได้ประโยชน์จากกระแส Data center
-BDMS ได้อานิสงส์จากสังคมสูงวัยที่จะใหญ่ขึ้น คาดกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติยังคงเติบโต
-CPALL ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

สำหรับหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ หุ้นกลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ยังมข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลต่อนโยบายที่จะมีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ มีความคุ้มค่ากับงบประมาณ ได้แก่ เร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่หนุนศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ สนับสนุนอุตสาหกรรม New S-Curve ให้เกิดขึ้นในไทย นโยบายกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมใหม่ๆ สนับสนุนการวิจัยและผลิตสินค้าเทคโนโลยี ส่งเสริมการท่องเที่ยว Entertainment complex รวมถึงลดภาษีนิติบุคคล และตามมาด้านการช่วยเหลือภาคประชาชน ได้แก่ ลดภาษีบุคคลธรรมดา สนับสนุนมาตรการแก้ปัญหาหนี้ และให้ความสำคัญด้านการศึกษา

นายสมบัติยังกล่าวถึงการคัดเลือกประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าคงไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่การกำหนดนโยบายมาจากตัวองค์กรเป็นหลัก ประธานบอร์ดไม่ใช่คนกำหนดนโยบาย จึงถือว่าไม่น่ากังวลถึงขั้นที่เป็นอยู่ และเชื่อว่าจะมีการคัดเลือกได้ตามกำหนด

ส่วนกรณีราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงเช้าวันนี้ หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียง อบจ.เชียงราย ให้กับพรรคเพื่อไทย ประกาศอยากเห็นการปรับลดค่าไฟฟ้าของไทยให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรีน่าจะเห็นช่องทางอะไรบางอย่างที่สามารถทำได้จึงพูด ส่วนตัวคิดว่าการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าคงมีต้นทุนหลายส่วน รวมถึงมีคำถามว่าการไฟฟ้าได้กำไรเท่าไร จึงทำให้มีความหวังว่าจะเป็นการช่วยลดค่าไฟฟ้า โดยไม่กระทบกระเทือนหุ้นมากจนเกินไป แต่ว่าอาจกระทบเล็กน้อยบ้างก็คงต้องมี

ด้านนายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ท้าทาย ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยจะเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งเมื่อปี 67 ที่ผ่านมา มีการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐเพียงครึ่งเดียว ส่วนที่เหลือคาดว่าจะถูกใช้ในปีนี้ ทำให้อาจเห็นเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐตัวเลขสูงเกือบ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของจีดีพีที่มีการประเมินไว้ว่าจะแตะ 2.9% โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในการลงทุน ได้แก่ ก่อสร้าง ท่องเที่ยว อุปโภคบริโภค การเงิน และกลุ่ม new investment cycle ที่น่าสนใจมาก แม้จะยังไม่ชัดเจน แต่มองว่านิคมอุตสาหกรรมจะได้ประโยชน์แน่นอน.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน

ฮอกกี้ไทย

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพจีน

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพ “จีน” เย็นนี้ หลังเดินทางถึงนครฮาร์บิน ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9