กาฬสินธุ์ 25 ส.ค. – แจ้งข้อหา 8 ข้าราชการ ยักยอกของหลวงและทุจริตต่อหน้าที่ คดีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายจากหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
ภาพที่เห็นถ่ายจากจุดเดียวกัน คือบริเวณลานหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เป็นภาพก่อนและหลังวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ภาพซ้ายมือจะเห็นว่ามีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อนใหญ่ๆ วางเรียงกัน และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในคืนวันที่ 5 สิงหาคม รุ่งเช้า (6 ส.ค.) เจอแต่ความว่างเปล่า อย่างที่เห็นในภาพขวามือ
ไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อนที่หายไป มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้จากแก๊งมอดไม้ สร้างความคลางแคลงใจสงสัยว่าไม้พะยูงท่อนใหญ่ๆ ถึง 7 ท่อน หายไปได้อย่างไรจากหน้าสำนักงานเทศบาล ซึ่งกลุ่มผู้ต้องสงสัยเอี่ยวเรื่องนี้หนีไม่พ้นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และไม่เหนือการคาดเดา เพราะล่าสุดมีหลักฐานชี้ชัดแล้วว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ 8 คน เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และที่น่าตะลึงคือ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงรวมอยู่ด้วย
พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ บอกว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง เจ้าของคดี ได้สรุปสำนวนและส่งให้ ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ ตรวจสอบแล้วตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา สาเหตุที่ต้องส่งให้ ป.ป.ช. เพราะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ 8 คน เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยมีพยานหลักฐานชัดเจน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 3 คน อีก 5 คน เป็นผู้นำท้องถิ่นและผู้นำหมู่บ้าน เบื้องต้นแจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานรัฐมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์เป็นของตนหรือทุจริต หรือยอมให้คนอื่นเอาทรัพย์นั้นไป
จากการตรวจสอบพบว่าหลังมีการนำไม้พะยูงของกลางมาเก็บรักษาไว้ที่หน้าสำนักงานเทศบาล มีนายหน้าเข้ามาดูไม้เหมือนกับมีการเปิดประมูล จากนั้นมีหนึ่งในกลุ่มผู้กระทำผิดขนย้ายไม้ออกไปจำหน่าย โดยมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งการโอนเงินและเส้นทางการเงิน รวมถึงภาพบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อนเกิดเหตุไม้พะยูงหาย
ขั้นตอนจากนี้ ทาง ป.ป.ช. จะมีอำนาจสอบสวนตามกฎหมาย อาจจะพิจารณาสอบสวนเอง หรืออาจจะให้ฝ่ายพนักงานสอบสวน ร่วมสอบสวนด้วยก็ได้
เอาผิด “วินัย-แพ่ง-อาญา” ปมประมูลไม้พะยูงต่ำกว่าราคาจริง
นอกจากเรื่องไม้พะยูงของกลางหายแล้ว ที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบการประมูลไม้พะยูง 17 ต้น ที่ได้ราคาต่ำกว่าตลาดถึง 56 เท่า ที่มาที่ไปเรื่องนี้เกิดจากผู้บริหาร 2 หน่วยงานรัฐในพื้นที่อนุญาตให้ตัดไม้พะยูง 22 ต้น ที่ปลูกอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองกุงศรี และนำมาประมูลขายกับนายหน้าค้าไม้ จำนวน 17 ต้น ในราคาถูกเพียง 153,000 บาท
นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นำทีมเฉพาะกิจเข้าสอบสวนพบข้อสงสัยและพบพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะการประเมินราคาซื้อขายที่ต่ำ และการขออนุญาตตัดไม้พะยูง พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบสวนด้านวินัย และเชิญ 3 องค์กรอิสระ คือ ป.ป.ช. ปปท. และ สตง. ตรวจสอบเอาผิดทั้งทางวินัย แพ่ง อาญา
รองผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ บอกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนข้อสั่งการของทางจังหวัด แม้ว่าพื้นที่ป่าไม้จะอยู่ในพื้นที่ของธนารักษ์ แต่มีหนังสือจากอธิบดีกรมธนารักษ์มอบแนวทางปฏิบัติมาให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ที่เน้นย้ำในการอนุรักษ์ป่าไม้ โดยให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา หากจะตัดต้นไม้ต้องมีความจำเป็น หรือเป็นต้นไม้ที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดอันตราย โดยจะต้องมีการขออนุญาตและมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา
โดยสรุปคือ การตัดไม้ แม้จะมีการทำเอกสารก็ใช่ว่าจะตัดได้ง่ายๆ ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการก่อน กรณีของไม้พะยูงที่ถูกตัดไปประมูลขายครั้งนี้ไม่ควรจะตัดด้วยซ้ำ ดังนั้น คนที่ร่วมกันกระทำความผิดต้องรับผิดชอบ นอกเหนือจากด้านวินัยแล้วจะต้องถูกดำเนินคดีทางอาญาและแพ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย