รัฐสภา 25 ส.ค.- “เสรี” ระบุอีก 10 เดือน สว.จะหมดอายุ ไม่กระทบการทำงาน หลังเสียงแตกวันโหวตนายกฯ มอง “รัฐบาลเศรษฐา” จะไร้ปัญหา ถ้าไม่แตะ ม.112
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงภาพการพบกันระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ว่าดูเป็นบรรยากาศที่ดี ที่เป็นการพูดคุยกัน ไม่ใช่การเผชิญหน้ากัน สำหรับการที่จะมีรัฐบาลในการบริหารประเทศ สำหรับโผคณะรัฐมนตรี(ครม.) เศรษฐา 1 จะความเชื่อมั่นได้หรือไม่ เป็นเรื่องของการตกลง และความร่วมมือของแต่ละพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล เมื่อตกลงกันแล้วให้เป็นไปตามที่ตกลง คงจะดำเนินไปได้ด้วยดี
ส่วนที่มีข้อสัวเกตว่าภาพการพบกันของบุคคลทั้งสองอาจเป็นนัยทางการเมืองหรือสืบทอดทางการเมืองหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เรื่องของการสืบทอดอำนาจไม่น่าจะมี มองว่าเป็นการส่งต่ออำนาจมากกว่า ซึ่งหากเป็นการสืบทอดอำนาจไม่รู้ว่าจะสืบกันอย่างไร อยากให้มองในแง่ดีก่อน เพราะการจะปรับเปลี่ยนรัฐบาลก็เป็นมารยาทอยู่แล้วที่แสดงออกในการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน ตอนนี้ให้ประเทศเดินหน้าไปก่อน เพราะประชาชนอยากจะเห็นรัฐบาลที่สามารถทำงานได้ บางทีอะไรที่อยู่ในใจอยากให้เก็บกันไว้ก่อน อย่าเพิ่งแสดงออกมาตอนนี้เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ารัฐบาลใหม่ทำงานไม่ได้ เพราะมีแต่เรื่องขัดแย้ง ต้องให้โอกาสกัน
เมื่อถามว่า นาทีนี้มองว่าเป็นทางลงจากหลังเสือของ คสช. และจะเป็นประชาธิปไตยเต็มใบแล้วหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในขณะนี้ แล้วแต่จะเป็นระดับไหน เต็มใบหรือครึ่งใบ ก็ตามนั้นมาจากการเลือกตั้ง ประชาชนตัดสินใจเลือกตัวแทนมาบริหารจัดการประเทศ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ต้องการ
ส่วนในอนาคตจะเป็นปัญหาอุปสรรคต่อทำงานหลังจากนี้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลมาจากหลายพรรคการเมือง ซึ่งอาจมองว่าเป็นจุดอ่อนส่วนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะการมีเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ความเห็นที่แตกต่างและการทำงานจะได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการร่วมแรงร่วมใจกัน ซึ่งการทำงานร่วมหลายพรรคการเมืองเห็นมาหลายครั้งแล้ว ว่าในที่สุดก็เกิดความเปราะบาง หากเกิดความขัดแย้งและแยกตัวกับรัฐบาลอาจอยู่ลำบาก ความเข้มแข็งว่าจะอยู่อย่างไรนั้นอยู่ที่พรรคการเมืองว่าจะเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์อย่างไร หากนำเสนอแต่นโยบายของพรรคตนเองมากจนเกินไปก็อาจกลายเป็นความขัดแย้งได้ และหากเป็นนโยบายที่ไม่สุจริตหรือซื่อสัตย์ ไม่มีคุณธรรมจริยธรรมอาจมีความเห็นต่างขึ้นได้ ดังนั้น รัฐบาลใหม่ต้องตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์สุจริตและสำคัญที่สุดคือการรักษาความสงบของบ้านเมือง อย่าให้ใครมากระทำผิดต่อกฎหมาย
นายเสรี กล่าวว่า ที่รับปากว่าจะไม่แก้ ม.112 และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะไม่ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาแก้รัฐธรรมนูญด้วยก็จะสามารถทำให้ประเทศเดินต่อไปได้ ซึ่งหากผิดคำพูดหรือสนับสนุน กลุ่มที่จะแก้ไข ดังนั้นรัฐบาลใหม่ต้องคำนึงถึงจุดเปราะบางในส่วนนี้ด้วย ส่วนเสียงโหวตของ สว. ในวันโหวตเลือกนายกฯ ที่มีความแตกต่างกันมาก จะส่งผลต่อการทำงานของ สว.หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่าระยะเวลาของ สว. เหลือเพียง 10 เดือนเท่านั้น ดังนั้นผลการลงคะแนน นั้นผ่านพ้นไปแล้ว ในอนาคตหากไม่ทำอะไรที่ผิด สว. คงอยู่ในสถานภาพที่ใกล้จะหมดอายุ คงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย