กทม. 21 ส.ค.- ผบ.ตร. ยันความพร้อมรับ “ทักษิณ” กลับไทย เตรียมแผนรองรับความปลอดภัย จนกว่าตัวถึงเรือนจำ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกำหนดการเดินทางกลับประเทศของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ท่าอาศยานดอนเมือง เวลา 09.00 น.วันที่ 22 ส.ค.นี้ ว่า มีความพร้อม ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงษ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.ประชุมร่วมกับหน่วยปฏิบัติหลักๆอย่าง สตม.และ บช.น.นอกจากนั้นจะมีมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ การท่าอากาศยาน กรมราชทัณฑ์ ขณะนี้ถือว่ามีความพร้อม ท่านจะกลับมาเมื่อไหร่มีความพร้อมทำได้เลย
ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนในการเดินทางกลับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่าได้รับการประมาสานมาว่าจะเดินทางมา แต่เจ้าหน้าที่ต้องขอความชัดเจนเรื่องเที่ยวบินอีกครั้ง ถ้าเรารู้รายชื่อผู้โดยสารก็สามารถทำได้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความพร้อมอยู่แล้ว ถามต่อว่าเป็นเครื่องบินส่วนตัวหรือเที่ยวบินโดยสาร ผบ.ตร. กล่าวว่า น่าจะเป็นเครื่องบินส่วนตัวสนามบินดอนเมือง
“ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่เมื่ออดีตนายกฯเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมือง เริ่มต้นจากขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ ตม. ต่อเนื่องถึงเจ้าหน้าที่ บก.น.2 ในการรับมอบตัวทุกอย่างจบที่สนามบิน หลังจากนั้นนำตัวไปที่ศาลฎีกาสนามหลวงในพื้นที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อศาลได้ดำเนินการพิจารณายื่นยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจริงก็ออกหมายขังส่งไปยังเรือนจำ โดยเจ้าหน้าที่จะยังตามดูแลเรื่องเส้นทางเพื่อความปลอดภัยเพราะถือว่ายังอยู่ในมือตำรวจ ยังไม่จบสิ้น จบหน้าที่ที่เรือนจำ” ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวถึงการดูแลการจราจรของว่าไม่ห่วง แต่ห่วงเรื่องการดูแลความปลอดภัยจะทำให้ดีที่สุด วันนี้ได้มีการกำหนดซักซ้อมแผนด้วย ส่วนมวลชนที่เดินทางมาให้กำลังใจทราบว่ามีจำนวนมากแต่ต้องรอการยืนยันอีกครั้งตอนเย็น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่มีแผนในการรองรับเตรียมสถานที่รองรับ สถานที่จอดรถให้เกิดความปลอดภัยกับคนมาที่และคนที่มาให้กำลังใจทุกอย่างอยู่ในแผนหมดแล้ว ตามแผนการดูแลให้ความสำคัญของบุคคลที่มีโอกาสภัยคุกคามได้
เมื่อถามถึงกรณีการเดินทางกลับประเทศของนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจจะกลับมาด้วย ตามขั้นตอนของกฎหมายถ้าพบตัวปรากฏตัวบนเครื่องตำรวจต้องดำเนินการอย่างไร ผบ.ตร. กล่าวว่า เรายังไม่ได้รับการประสานขนาดนั้น ดูไปทีละสเต๊ปก่อน
เมื่อถามถึงการข่าวที่อาจเกิดความรุนแรง ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่มีแต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ประมาท .-สำนักข่าวไทย