รัฐสภา 26 ธ.ค.-รมว.ดีอี ขอบคุณ “ทักษิณ” ชี้เป้าแหล่งมิจฉาชีพออนไลน์ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ หลังปีใหม่ ผุดมาตรการคลีนซิ่งข้อความส่งลิงก์ดูดเงิน หากค่ายไม่ทำต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหาย ด้าน “วันนอร์” ฝากรัฐบาล ช่วยตามคนจาก 2 ประเทศรวม 43 คน ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์
การประชุมสภาฯวาระกระทู้ถามทั่วไป นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตอบกระทู้ถามเรื่องปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งตั้งถามโดยนายธีรัจชัย พันธุมาศ สส. กทม. พรรคประชาชน และมีข้อสังเกตว่าการกำกับธุรกรรมทางออนไลน์ที่เข้าข่ายหลอกหลวงประชาชน สถาบันการเงินหรือธนาคารควรมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ขอรัฐบาลอย่าเกรงใจนายทุนธนาคาร ตอนหนึ่งว่าการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นั้นขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วแต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอความเห็นจากกฤษฎีกาก่อนจะส่งขอความเห็นชอบจาก ครม. เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ในรายละเอียดของ พ.ร.ก. นั้นจะกำหนดการอายัดและคืนเงิน ให้ทำได้รวดเร็ว ตั้งใจไม่เกิน 6 เดือนคืนได้ แต่วิธีเก่าใช้เวลา 1-2 ปีเป็นอย่างน้อย
“บัญชีม้าที่ยึดอายัดได้และมีเงินคืน มีที่มาและที่ไปจำนวนมาก หากระงับได้ทันที สามารถทำได้ทันที แต่เงินในบัญชีปรากฎเจ้าทุกข์หลายราย ทั้งนี้มาตรการที่เกี่ยวกับธนาคารนั้น กำหนดให้มีส่วนร่วมรับผิดชอบเหมือนกับเครือข่ายมือถือ ทั้งนี้ไม่มีความเกรงใจธนาคาร หรือโอเปอร์เรเตอร์ แต่เราเกรงใจประชาชน ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าคณะกรรมการและป้องกันภัยไซเบอร์เราจะเอาใจธนาคาร โดยหลังปีใหม่นี้จะได้เห็น ระบบคลีนซิ่งหากพบข้อความไม่เหมาะสม เป็นภัย หรือข้อความหลอกลวงประชาชน ข้อความต้องถูกยกเลิก หากโอเปอร์เรเตอร์ไม่ทำตาม ต้องมีส่วนรับผิดชอบกรณีที่ผู้เสียหายกดลิงก์ดูดเงิน” นายประเสริฐ ชี้แจง
นายประเสริฐ ชี้แจงด้วยว่าการตัดวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ใช้ความพยายามมาก ส่วนมาตรการของต่างประเทศที่เป็นประโยชน์นำมาใช้ ส่วนที่ของเราใช้และต่างชาตินำไปใช้ก็มี เช่น การปิดกั้นข้อมูลนำเข้าคอมพิวเตอร์ที่ไม่พึงประสงค์ โดยใช้อำนาจของรมต.ตามกฎหมาย ที่สิงคโปร์นำไปใช้ รวมถึงการอายัดบัญชี
นายธีรัจชัย ตั้งคำถามกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวระหว่างการปราศรัย รู้ถึงจุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ต่างประเทศ เช่น ชั้น25 ที่ปอยเปต หรือ ที่เมียวดี พร้อมระบุว่าส่งคนไปประสานแล้ว หากไม่มีกองกำลังจะส่งกำกลังไป และปีหน้าจะหมดเกลี้ยง มีอำนาจจริงหรือไม่ ตนอยากให้จริง และรัฐบาลมีเป้าหมายจะทำได้จริงหรือไม่เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมออนลไน์
โดยนายประเสริฐ ชี้แจงว่า นายทักษิณมีความเป็นห่วงคนไทย โดยกระทรวงดีอีไม่นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาประสานงานไปยัง ประเทศมาเลเซีย ประเทศเมียนมา ประเทศจีน ประเทศลาว ประเทศกัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเข้าไปปราบปรามแก๊งคอลเซ็นต์เตอร์ ทั้งนี้ตนขอบคุณในความห่วงใย รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจและจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้ฝากตอนท้ายว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ทูต 2 ประเทศว่ามีคนในประเด็นเขาถูกจับและบังคับให้เป็นแก๊งคอลเซ็นตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยถูกหลอกมาเมืองไทยว่าจะมาท่องเที่ยวและมีงานทำ แต่กลับถูกจับและส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน มีประเทศหนึ่งถูกจับ 13 คน อีกประเทศ 30 คน หากเป็นแบบนี้ทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยวซึ่งไม่เป็นผลดี อยากให้รัฐบาลแก้ไขโดยด่วน.-312.-สำนักข่าวไทย