ศาลรัฐธรรมนูญ 16 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอวินิจฉัยมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อ “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสองขัดต่อ รธน.หรือไม่ เหตุผู้ร้องเรียนไม่ใช่บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ – ไม่ได้มีชื่อเป็นแคนดิเนตนายกฯ ในบัญชีพรรคการเมือง
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องของรองศาสตราจารย์พรชัย เทพปัญญา ผู้ร้องเรียนที่ 1 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุญส่ง ชเลธร ผู้ร้องเรียนที่ 2 นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ ส.ส.พรรคก้าวไกลและคณะ ซึ่งเป็นประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลจำนวน 17 คน ผู้ร้องเรียนที่ 3 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 กรณีรัฐสภามีมติเรื่องการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบที่สอง วันที่ 19 กรกฎาคมขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 213 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 46 เป็นบทบัญญัติที่มีเจตนารมณ์ให้ศาลรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลจากการกระทำละเมิด โดยใช้อำนาจรัฐ แต่บุคคลที่จะมีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต้องเป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรง สำหรับกระบวนการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 159 วรรคหนึ่ง ให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบเฉพาะจากบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอ และเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 เท่านั้น
ดังนั้น ผู้มีสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากรัฐสภา ต้องเป็นผู้ที่พรรคการเมืองเสนอตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง อันเป็นสิทธิเฉพาะบุคคลที่รัฐธรรมนูญ 2560 กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 46 วรรคหนึ่ง ประกอบกับมีช่องทางในการยื่นคำร้องที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นการเฉพาะแล้ว ดังนั้นผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ได้.-สำนักข่าวไทย