ให้ผู้บริการปั๊มน้ำมัน ตรวจหัวจ่ายและรายงานผลภายใน 11 ส.ค.นี้

นนทบุรี 8 ส.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายในเชิญผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันในประเทศทุกราย มาหารือเพื่อกำชับให้ตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน และอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพปกติ หลังเจอผู้ใช้บริการน้ำมันเข้าไปเติมแล้วได้จำนวนน้ำมันไม่ตรงตามยอดเงินที่จ่ายไปแล้วและให้รายงานผลภายใน 11 ส.ค.นี้


นายวัฒนศักย์  เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ประชุมหารือ “แนวทางกำกับดูแลสถานีบริการน้ำมัน” กับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันในประเทศชั้นนำ 12 ราย เช่น PTT Station บางจาก PT  เอสโซ่ เชลล์ และคาลเท็กซ์  ซึ่งทุกราย ให้ความมั่นใจถึงมาตรฐานการให้บริการน้ำมัน และพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐาน ในเบื้องต้น ให้ผู้ให้บริการน้ำมันทุกราย กลับไปตรวจทุกหัวจ่ายน้ำมันในทุกสถานีบริการที่มีอยู่กว่า24,000 แห่งทั่วประเทศ รวมกว่า 4 แสน 5 หมื่นหัวจ่ายเป็นการเร่งด่วน และรายงานกลับมายังกรมการค้าภายในภายในวันศุกร์นี้ (11 ส.ค.) หลังจากนั้นให้แจ้งผลการตรวจสอบเป็นประจำทุกเดือนในทุกวันที่ 10 ของเดือน 

อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายใน จะส่งเจ้าหน้าที่ทั้งจากส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ปูพรมตรวจสอบทุกจุดอีกครั้ง ซึ่งหากพบไม่ถูกต้อง จะดำเนินมาตรการทางกฎหมายทันที เช่น หัวจ่ายชำรุด / หัวจ่ายไม่ได้รับการรับรอง หรือ จ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อน จะมีโทษปรับสูงสุด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งยังมีการลงโทษไปถึงผู้บริหารสถานีบริการน้ำมัน ที่เป็นเฟรนไชส์ หรือ เครือข่าย อาทิ ยกเลิกสัญญา โดยเฉพาะกรณีเจตนาโกง หรือ ดัดแปลงหัวจ่าย จะมีโทษหนัก จำคุกสูงสุดถึง 7 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน 8 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา สถิติการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน รวมกว่า 7,800 ครั้ง รวม 1 แสน 7 หมื่นหัวจ่ายพบผิด 802 หัวจ่าย ส่วนใหญ่จ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อนเกินกว่าปกติ / และสิ้นอายุการตรวจรับรองตามกฎหมายทุกๆ 2 ปี  ซึ่งดำเนินคดีไปแล้ว 210 ราย  ส่วนการร้องเรียนผ่านสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ในช่วง 7 เดือนแรก รวม45 เรื่อง 

สำหรับประชาชน ที่มีข้อสงสัย สามารถตรวจสอบเบื้องต้น จากสติ๊กเกอร์ ยืนยันการตรวจสอบจากกรมการค้าภายในและแสดงปีปัจจุบัน หรือ หากพบความผิดปกติหลังจากไปเติมน้ำมัน  สามารถร้องเรียนผ่าน 1569 ได้ ซึ่งได้จัดทีมให้คำแนะนำและรับเรื่องร้องเรียนเป็นการเฉพาะ พร้อมออกไปตรวจสอบได้ทันที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ