08 สิงหาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
บทสรุป :
- สาร Adrenochrome ไม่มีคุณสมบัติเป็นยาหลอนประสาทหรือยาอายุวัฒนะ
- สาร Adrenochrome สามารถสังเคราะห์ในห้องแล็บ ไม่จำเป็นต้องสกัดจากมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิต
- สาร Adrenochrome มีจำหน่ายเพื่อใช้ในการทดลองในห้องแล็บ
ข้อมูลที่ถูกแชร์ :
มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา ที่อ้างว่าขบวนการค้าประเวณีเด็กที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มีเบื้องหลังเป็นเหล่าคนดังและผู้มีอำนาจในรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้บงการ จุดประสงค์เพื่อการสกัดเอาสาร Adrenochrome (อะดรีโนโครม) จากเลือดของเด็ก โดยอ้างว่ามีคุณสมบัติเป็นทั้งยาหลอนประสาทและยาอายุวัฒนะ
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
Adrenochrome เป็นสารประกอบทางเคมีที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของอะดรีนาลีน ฮอร์โมนที่ผลิตออกมาจากต่อมหมวกไต (Adrenal Gland) ในเวลาที่มีความเครียด ความกลัว หรือรู้สึกโกรธ ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นและความดันโลหิตสูงขึ้น โดยสาร Adrenochrome มักใช้สำหรับผลิตยาช่วยการสร้างลิ่มเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลียที่มีปัญหาเลือดไหลไม่หยุด
ความเชื่อผิด ๆ จากสื่อบันเทิง
มีบทความและวรรณกรรมหลายเรื่องสร้างความเชื่อผิด ๆ ว่า Adrenochrome มีสรรพคุณเป็นยาหลอนประสาท หนึ่งในนั้นคือ Fear and Loathing in Las Vegas นิยายปี 1971 ของ ฮันเตอร์ เอส. ทอมป์สัน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ดังปี 1998 นำแสดงโดย จอนห์นี เด็ปป์
ตัวละครในเรื่องที่ชื่อ ดร.กอนโซ เอ่ยถึง Adrenochrome ว่า “เป็นสารที่หาได้จากต่อมหมวกไตของมนุษย์ที่ยังมีชีวิตเท่านั้น ไม่มีประโยชน์หากสกัดออกมาจากศพ”
ภายหลัง เทอร์รี กิลเลียม ผู้กำกับหนัง Fear and Loathing in Las Vegas ยอมรับว่า ตนคิดมาเสมอว่าสาร Adrenochrome เป็นแค่เรื่องสมมติ และไม่รู้มาก่อนว่ามีสาร Adrenochrome อยู่จริง ๆ การเอ่ยถึงสาร Adrenochrome ในหนังจึงเป็นการกล่าวอ้างเกินจริง
อย่างไรก็ดี ความเชื่อเรื่องสาร Adrenochrome ในฐานะยาหลอนประสาทที่ถ่ายทอดในหนัง Fear and Loathing in Las Vegas ก็ได้รับการเผยแพร่ต่อในวงกว้าง ฉากที่กล่าวถึงสาร Adrenochrome ในหนังมียอดรับชมทาง Youtube กว่า 3 ล้านวิว
Pizzagate และ Qanon
สาร Adrenochrome มีบทบาทสำคัญในทฤษฎีสมคบคิดอย่าง Pizzagate และ Qanon ที่แพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016 และปี 2017 ซึ่งตรงกับช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าคนดังในฮอลลีวูด มหาเศรษฐี และนักการเมืองของพรรคเดโมแครต มีส่วนร่วมในการค้าประเวณีเด็ก โดยใช้ห้องใต้ดินของร้านพิซซ่า Comet Ping Pong ในกรุงวอชิงตันดีซีเป็นสถานที่กักขัง โดยเด็กที่ถูกจับมาจะถูกทารุณกรรมและถูกคุกคามทางเพศ เพื่อให้ร่างกายเด็กเร่งการผลิตสาร Adrenochrome ในปริมาณมาก สำหรับใช้เป็นยาหลอนประสาทและยาอายุวัฒนะแก่ผู้มีอำนาจ
แม้การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสื่อหลายสำนักจะยืนยันว่าทฤษฎีสมคบคิด Pizzagate และ Qanon เป็นเรื่องลวงโลก แต่ก็มีคนไม่น้อยที่หลงเชื่อในข่าวลือ และนำไปสู่การก่อความไม่สงบในสังคม ทั้งการใช้เป็นข้ออ้างโจมตีร้าน Comet Ping Pong จนถึงการบุกรุกรัฐสภาสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2021
ในช่วงล็อกดาวน์เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 คนดังมากมายในฮอลลีวูดต้องใช้สื่อสังคมออนไลน์สื่อสารกับแฟน ๆ ก็มีการอ้างว่า เหล่าคนดังในฮอลลีวูดดูทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากอยู่ในภาวะที่เรียกว่า “การขาดสาร Adrenochrome” ที่เคยช่วยให้พวกเขาดูอ่อนเยาว์
ในระหว่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน มีการอ้างว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ทำลายโรงงานผลิตสาร Adrenochrome ในประเทศยูเครน และยับยั้งการขนส่งสาร Adrenochrome มายังสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง
การมาถึงของ Sound of Freedom
ในปี 2023 สาร Adrenochrome กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง จากความโด่งดังของ Sound of Freedom ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดการทำงานของ Operation Underground Railroad องค์กรต่อต้านการค้าประเวณีเด็ก ซึ่งทำรายได้แซงหน้าหนังดังหลายเรื่องที่ออกฉายในช่วงเวลาเดียวกันทั้ง Indiana Jones and the Dial of Destiny และ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One
อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้กลับถูกมองว่าเป็นเหมือนสื่อประชาสัมพันธ์สำหรับทฤษฎีสมคบคิด เมื่อ ทิม บอลลาร์ด ผู้ก่อตั้งองค์กร Operation Underground Railroad และ จิม คาวีเซล นักแสดงนำของเรื่อง Sound of Freedom ต่างสนับสนุนความเชื่อเรื่องการค้าประเวณีเด็กเพื่อการสกัดสาร Adrenochrome ด้วยกันทั้งคู่
โดย ทิม บอลลาร์ด เคยให้สัมภาษณ์ว่า มีการสกัดสาร Adrenochrome เด็กในบางประเทศของทวีปแอฟริกา ส่วน จิม คาวีเซล ซึ่งปรากฏตัวในงานประชุมของกลุ่ม Qanon บ่อยครั้ง ก็เชื่อว่าสาร Adrenochrome ได้มาจากการทรมานเด็กเช่นกัน
สรรพคุณของสาร Adrenochrome
แม้สาร Adrenochrome จะถูกเชื่อมโยงว่าถูกใช้เป็นยาหลอนประสาทและยาอายุวัฒนะ แต่หลักฐานทางการแพทย์ไม่พบว่า สาร Adrenochrome มีคุณสมบัติดังกล่าวแต่อย่างใด
ดร.สตีเวน มิตเทลแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคต่อมไร้ท่อในเด็ก จากมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ ยืนยันต่อเว็บไซต์ Lead Stories ว่า สาร Adrenochrome ไม่มีสรรพคุณในการย้อนวัยหรือมีผลต่อการหลอนประสาท แม้ในอดีตจะเคยมีการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสาร Adrenochrome กับโรคจิตเภท แต่การศึกษาเพิ่มเติมในปัจจุบันไม่พบความสัมพันธ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่พบว่าสาร Adrenochrome ในปริมาณมากอาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานแย่ลง ส่งผลต่อการปั๊มเลือดของหัวใจ และยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าจะเป็นยาอายุวัฒนะ
การสังเคราะห์สาร Adrenochrome
สาร Adrenochrome สร้างขึ้นอย่างง่ายดายจากการสังเคราะห์ในห้องแล็บ และมีการจำหน่ายอย่างแพร่หลายเพื่อการวิจัย
เทย์เลอร์ วูดซัน ตัวแทนของ Santa Cruz Biotechnology (SCBT) บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับห้องปฏิบัติการในแคลิฟอร์เนีย ให้สัมภาษณ์ต่อ Lead Stories ว่า ลูกค้าทั้งหมดที่ซื้อสาร Adrenochrome สังเคราะห์จากบริษัท คือห้องแล็บที่มีใบรับรองด้านความปลอดภัย โดยจำหน่ายในราคา 55 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อ 25 มิลลิกรัม และ 335 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อ 250 มิลลิกรัม (ประมาณ 1.34 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อ 1 มิลลิกรัม)
ดร.สตีเวน มิตเทลแมน อธิบายว่า สาร Adrenochrome มีโครงสร้างโมเลกุลที่เรียบง่าย นักศึกษาวิชาเคมีส่วนใหญ่สามารถสังเคราะห์ได้เองในห้องแล็บ จึงไม่มีความจำเป็นต้องสกัดสาร Adrenochrome จากสิ่งมีชีวิต นอกจากต้องทำการผ่าตัดที่ไม่จำเป็นแล้ว กระบวนการทำสารให้บริสุทธิ์ก็มีความซับซ้อนอีกด้วย
นอกจากนี้ ต่อมหมวกไตของเด็กผลิตสาร Adrenochrome ในปริมาณเพียงไม่กี่มิลลิกรัม การสกัดสาร Adrenochrome จากต่อมหมวกไตของวัว ซึ่งคล้ายกับมนุษย์และหาได้ตามโรงฆ่าสัตว์ ยังให้ Adrenochrome ในปริมาณที่มากกว่า ถ้าจะมีใครพยายามสกัดสาร Adrenochrome จากสิ่งมีชีวิตจริง ๆ ดังนั้น การสกัดสาร Adrenochrome จากมนุษย์จึงเป็นเรื่องไร้สาระและไม่น่าจะเป็นจริง
การต่อต้านทฤษฎีสมคบคิด
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับสาร Adrenochrome ทำให้เว็บไซต์หลายแห่งออกมาตรการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสาร Adrenochrome
ในปี 2020 Reddit สั่งแบนการตั้งหัวข้อเกี่ยวกับสาร Adrenochrome ส่วนเว็บไซต์ Amazon ก็ลบหนังสือที่เผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับสาร Adrenochrome ออกจากเว็บไซต์
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.forbes.com/sites/conormurray/2023/07/15/the-adrenochrome-conspiracy-theory-pushed-by-sound-of-freedom-star-explained/.
https://leadstories.com/hoax-alert/2020/07/fact-check-adrenochrome-not-obtained-from-living-children.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Adrenochrome
https://en.wikipedia.org/wiki/Pizzagate_conspiracy_theory
https://en.wikipedia.org/wiki/QAnon
https://www.factcheck.org/2020/10/social-media-posts-dredge-up-baseless-child-trafficking-conspiracy-theory/
https://www.politifact.com/factchecks/2023/feb/23/blog-posting/claims-that-vladimir-putin-destroyed-an-adrenochro/
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter