29 ก.ค.-กรมการขนส่งทางบก แนะนำวิธีการดูแลเช่ารถให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดช่วงวันหยุดยาว
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก บอกว่า ช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา มีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับบ้านเป็นจำนวนมาก การเช่าเหมารถโดยสารเป็นการเดินทางอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้สำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ เพราะสามารถไปถึงที่หมายได้พร้อมเพรียงกัน แต่เพื่อความปลอดภัย กรมขนส่งฯ ขอแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเช่าเหมารถโดยสารควรวางแผนการเดินทางอย่างเหมาะสม เลือกเส้นทางที่ปลอดภัย เลือกขนาดรถให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร จนตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของผู้รับจ้างทั้งข้อมูลคนขับและสภาพรถอย่างละเอียดก่อนการว่าจ้าง
เริ่มจาก ผู้ประกอบการ ต้องมีความเป็นมืออาชีพได้มาตรฐาน ประวัติการเดินรถดี มีการตรวจสภาพความพร้อมของรถและพนักงานขับรถ ด้านตัวรถจดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ (ป้ายเหลือง) มีการติดตั้ง GPS Tracking
โดยกรมการขนส่งทางบก จะสามารถตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่และการใช้ความเร็วของรถแบบ Realtime ณ ศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS
มีการทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
ด้านคุณภาพตัวรถต้องมีความสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ผ่านการตรวจสภาพรถและชำระภาษีถูกต้อง ตัวรถต้องมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ได้แก่ เข็มขัดนิรภัย ประตูฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ด้านพนักงานขับรถ ต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ก่อนออกเดินทางต้องมีการศึกษาเส้นทางล่วงหน้า พักผ่อนเพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ (0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) ไม่เสพสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามขับรถเกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด โดยต้องเปลี่ยนคนขับเมื่อปฏิบัติงานติดต่อกันเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หรือหยุดพักขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะขับรถต่อไปอีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง
ในขณะเดินทางผู้โดยสารหมั่นสังเกตพฤติกรรมการขับรถของพนักงานขับรถ เช่น ขับรถส่ายไปมา ขับรถเร็วผิดปกติ ไม่เคารพกฎจราจร มีอาการง่วงซึม หรือมึนเมาจากสารเสพติดหรือสุราหรือไม่ หากพบเห็นต้องแจ้งเตือนพนักงานขับรถทันทีหรือแจ้งสายด่วนกรมการขนส่งทางบก โทร.1584 และที่สำคัญผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดระยะเวลา เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากการบาดเจ็บรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างเดินทางได้.-สำนักข่าวไทย