พรรคก้าวไกล 26 ก.ค.-“ชัยธวัช” ระบุ “ทักษิณ” กลับไทยเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวตั้งรัฐบาล ยันไม่มีแกนนำบินดีลลับ ย้ำจุดยืนค้านศาลรธน.มีอำนาจเหนือรัฐสภา ขออย่าคิดไปไกลถึงยุบพรรค ปมล้มล้างการปกครอง ขอยายเวลาแจงศาลแล้ว
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะมีกระบวนการอย่างไร แต่คงไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลและกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล นายทักษิณยืนยันมาตลอดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว โดยหลักทั่วไปแล้วประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าหากนายทักษิณกลับมาในตอนนี้ไม่น่าจะกระทบหรือเกี่ยวกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกระแสข่าวว่ามีแกนนำพรรคก้าวไกลบินไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกง เป็นการต่อรองเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่น่าจะคุยกัน ส่วนการเจรจาต้องรอการประชุมของ 8 พรรคร่วมฯ ทางพรรคเพื่อไทยได้รับภารกิจอยู่แล้วว่าเมื่อไปทำงานและได้ความคืบหน้าอย่างไร และมีข้อเสนอใดบ้างที่เป็นรูปธรรม ซึ่งคงต้องรอการนัดประชุมอีกครั้งจากทางเพื่อไทย
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคก้าวไกลพูดคุยกับนายทักษิณหรือมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าขณะนี้ต้องใช้กลไกในการประชุมของ 8 พรรคร่วมฯ และการประชุมร่วมกันของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก ขอย้ำว่า ไม่ทราบจริง ๆ เรื่องการกลับบ้านของนายทักษิณว่าจะมีจังหวะเวลาอย่างไร
ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า นโยบายแก้ม.112 เป็นการล้มล้างการปกครอง ที่จะต้องมีการชี้แจงภายใน 15 วันซึ่งครบในวันนี้ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการอยู่ และได้ยื่นขอขยายเวลาชี้แจงไปแล้ว ซึ่งคงต้องรอว่าศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาออกไปอีกกี่วัน เชื่อว่าคำร้องร้องให้ยุติการกระทำที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ยังไม่ไปไกลถึงเรื่องยุบพรรค อย่างไรก็ตาม พรรคไม่ประมาท ต้องประเมินสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุดเพื่อป้องกันไว้ทุกทาง
นายชัยธวัช กล่าวถึงถึงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาระบุว่าอาจจะหารือในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อทบทวนมติการเสนอชื่อเลือกนายกฯ ซ้ำได้ แต่ให้ยึดข้อวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่เห็นด้วยหากศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจเหนือรัฐสภา ยกเว้นในส่วนที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าอำนาจของศาลฯ อยู่ตรงไหน จุดยืนของเราคือการนำเสนอทางออกให้สภาฯ ว่าเมื่อมีความเห็นของสังคมว่ามติของรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ น่าจะใช้กลไกของรัฐสภาในการแก้ปัญหาของตนเองได้ ซึ่งควรใช้อำนาจของสภาเองในการแก้ไขปัญหานี้ ไม่เช่นนั้นเราที่ถือว่าเป็นตัวแทนของอำนาจอธิปไตย จะทำอะไรได้หรือไม่ได้ต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญทุกอย่าง มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น ซึ่งข้อเสนอในเรื่องนี้คงต้องเอาไปหารือกัน
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้หมด แต่สิ่งที่เราอยากจะผลักดันตอนนี้คือควรจะปลดล็อกมติซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ทำให้การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ซ้ำไม่ได้ หรืออาจจะทำได้แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ในส่วนนี้จะเป็นเงื่อนไขที่บีบในการจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหาได้ของ 8 พรรคร่วมฯ ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคใดก็ตาม เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องของแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลพรรคเดียว
“ส่วนจะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ซ้ำอีกครั้งหรือไม่ ยังไม่ได้คุยกัน เบื้องต้นพรรคก้าวไกลส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากงดการประชุมสภาฯ ไปด้วย พรรคเพื่อไทยน่าจะต้องการระยะเวลาพอสมควรที่จะนำข้อเสนอเข้าที่ประชุม 8 พรรคอีกครั้ง พรรคก้าวไกลย้ำจุดยืนชัดเจนว่าพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามผลการเลือกตั้ง” นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามว่า เมื่อการเลื่อนประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯ ถูกชะลอออกไป พรรคก้าวไกล จะช่วยหาเสียงสนับสนุนอย่างไร เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พยายามพูดคุยกับส.ว.ที่เราสามารถคุยได้ ถึงความเป็นไปได้ที่จะโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ต้องช่วยกัน เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นภาระหน้าที่ของเราทุกคน
สำหรับกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยแสดงความคิดเห็นเชิงลบกับพรรคก้าวไกล ได้พูดคุยกันหรือไม่ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องเคารพความเห็นของทุกคน สิ่งสำคัญคือความต้องการและความคาดหวังจากประชาชน ที่อยากจะเห็นพรรคอันดับหนึ่งและอันดับสอง ซึ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของขั้วอำนาจเดิม
เมื่อถามถึงกรณีรออีก 10 เดือนเพื่อให้ส.ว.หมดวาระ ในทางปฏิบัติสามารถทำได้หรือไม่ เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในทางปฏิบัติทำได้ แต่อาจจะนานเกินไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า 8 พรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคอันดับหนึ่งและอันดับสองจับมือกันแน่น รัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปได้ยากกว่ารัฐบาลเสียงข้างมาก.-สำนักข่าวไทย