รัฐสภา 22 มิ. ย. -สนช. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศเป็นกฎหมาย เมื่อมีผลบังคับใช้ สปท.ต้องหมดวาระตามรธน.กำหนด
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วันนี้ (23 มิ.ย. ) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งเป็นการพิจารณาเรียงตามมาตราในวาระ 2 และ 3 ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวมีทั้งสิ้น 33 มาตรา โดยไม่มีสมาชิกสนช.อภิปราย และที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ด้วยคะแนน 216 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง เห็นสมควรให้ประกาศเป็นร่างกฎหมาย พร้อมทั้งเห็นชอบกับข้อสังเกตของกรรมาธิการ
สำหรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวตราขึ้นตามมาตรา 259 ของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่กำหนดให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ โดยมีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีจัดทำแผนขั้นตอนในการดำเนินการปฏิรูปประเทศ การวัดผลการดำเนินการ และระยะเวลาดำเนินการปฏิรูปประเทศทุกด้าน รวมทั้งกำหนดกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยมีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้การปฏิรูปประเทศบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนการปฏิรูปประเทศ ขณะที่การจัดทำแผนการปฏิรูปประเทศควรพิจารณาถึงความเร่งด่วนของการปฏิรูปประเทศในแต่ละด้าน เพื่อกำหนดลำดับขั้นตอนในการปฏิรูปประเทศ และต้องคำนึงถึงความพร้อมทางด้านบุคลากรและการเงินการคลังของประเทศ
ร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ มีสาระสำคัญ คือ การกำหนดให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้าน จำนวน 11 ด้าน แต่ละด้านจะมีจำนวนไม่เกิน 13 คน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ในด้านที่จะดำเนินการปฏิรูป โดยคำนึงถึงความหลากหลายของผู้มีประสบการณ์ในภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม
การจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศ มาตรา 11 บัญญัติให้คณะกรรมการปฏิรูปแต่ละด้านต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 วันแล้วเสนอให้ที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการปฏิรูปทุกคณะพิจารณา นอกจากนี้ ต้องเสนอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อพิจารณาว่าร่างแผนการปฏิรูปประเทศสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับร่างแผนการปฏิรูปประเทศก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะมีผลให้สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ต้องพ้นจากตำแหน่งตามที่รัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 กำหนด.-สำนักข่าวไทย