เอ็กโก กรุ๊ป จับมือ ดีจีเอ ศึกษาแผนไฮโดรเจน-พลังงานหมุนเวียนในออสเตรเลีย

กรุงเทพฯ 20 ก.ค. -บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ร่วมมือกับ บริษัท ไดมอนด์ เจนเนอเรติ้งเอเชีย จำกัด (ดีจีเอ) ในเครือมิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ศึกษาร่วมพัฒนาธุรกิจไฮโดรเจน -พลังงานหมุนเวียน จากโรงไฟฟ้า “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม” ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย


นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้า “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม” ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้น 100%  ความร่วมมือกับดีจีเอ เป็นไปตามแผนมุ่งขับเคลื่อนเป้าหมายสู่สังคมคาร์บอนต่ำ  ในยุคเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะไฮโดรเจนที่มีศักยภาพรองรับการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสีเขียว การพัฒนาอย่างรวดเร็วของตลาดไฮโดรเจน จะช่วยขับเคลื่อนบริษัทไปสู่การบรรลุเป้าหมายระยะยาว คือ การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (2593) 

“เอ็กโก กรุ๊ป และดีจีเอ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับเอ็กโก กรุ๊ป มาอย่างยาวนาน การศึกษาจะครอบคลุมถึงการผลิตกรีนไฮโดรเจนจากโรงไฟฟ้า “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม” กำลังผลิต 113 เมกะวัตต์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ซึ่งเอ็กโกกรุ๊ป ถือหุ้น 100% ด้วย โดยความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานและการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน” นายเทพรัตน์ กล่าว


นายชินอิจิโร่ ซูซูกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไดมอนด์ เจนเนอเรติ้ง เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า ภายใต้ MoU นี้ ดีจีเอจะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมความพยายามในการดำเนินการเพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอนของเอ็กโก กรุ๊ป ดีจีเอจะใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาช่วยสนับสนุนเอ็กโก กรุ๊ป เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero 2050 ตามแผนที่ตั้งไว้

เกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ปปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,202 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม1,249 เมกะวัตต์ (คิดเป็นสัดส่วน 20% ของกำลังผลิตทั้งหมด).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]