ทำเนียบฯ 18 ก.ค. – รัฐบาลลุงตู่โชว์แก้ปัญหาหนี้ กยศ. และผู้ค้ำประกัน 7.4 ล้านราย แก้หนี้ครู-ตำรวจ 1.8 หมื่นราย ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ-แก้ปัญหากู้หนี้นอกระบบ
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลงานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2564-มีนาคม 2566 ได้การปรับโครงสร้างหนี้ ไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สินเพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้องคดี การผิดนัดชำระหนี้ในวงกว้าง ด้วยการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. 4.6 ล้านราย และผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านราย ด้วยการแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
การแก้ไขหนี้สินข้าราชการครูและตำรวจ ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ การลดดอกเบี้ย การผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นกลไกหลัก มีข้าราชการได้รับการแก้ไข ปรับโครงสร้างหนี้ 18,362 ราย การปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้ กยศ. บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถยนต์ และหนี้สินครู รัฐบาลยังปรับปรุงกฎหมาย เพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ในการไกล่เกลี่ยหนี้สิน ดูแลสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ การให้สินเชื่อของสหกรณ์ออมทรัพย์ และการทวงถามหนี้ให้เป็นธรรมยิ่งขึ้น
การปรับปรุงกติกาเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกลไกการไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หนี้ กยศ. ลดเบี้ยปรับจากเดิมร้อยละ 7.5 เหลือเพียงร้อยละ 0.5 ต่อปี การบรรเทาปัญหาของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การจัดตั้งบริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด โดยธนาคารออมสินร่วมทุนกับองค์กรที่มีภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีก 2 แห่ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย ให้นำที่ดินที่เป็นหลักประกันการกู้เงิน ในแบบจำนองหรือขายฝาก คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรกร้อยละ 6.99-8.99 ต่อปี แบบลดต้นลดดอก พร้อมปลอดชำระเงินต้นนาน 1 ปี เพื่อบรรเทาปัญหาหนี้สิน การลดดอกเบี้ยของสินเชื่อรายย่อยในต่างจังหวัด (PICO Finance) สำหรับหนี้สินที่มีหลักประกัน จากร้อยละ 36 เป็นไม่เกินร้อยละ 33 คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate).-สำนักข่าวไทย