รัฐสภา 17 ก.ค. – ส.ว. ประกาศดำเนินคดีทั้งแพ่ง-อาญา แก๊งล่าแม่มด ดูหมิ่น-คุกคามคนที่ไม่เห็นชอบ “พิธา” เป็นนายกฯ ชี้ไม่ใช่หลักประชาธิปไตย “เสรี” ประเดิมฟ้องทนายดัง “เดชา-อั๋น บุรีรัมย์” รู้ตัวทุกแอคเคาท์แล้ว ยืนยันไม่รับคำขอโทษ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พร้อมด้วย ส.ว. อีกกว่า 10 คน เช่น นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ นายสมชาย แสวงการ นายกำพล เลิศเกียรติดำรงด์ นายจเด็จ อินทร์สว่าง นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร นายออน กาจกระโทก และทีมทนายความ แถลงเรื่องถูกคุกคาม ได้รับความเสียหายจากสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ และการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทางกฎหมาย
นายเสรี กล่าวว่า ขณะนี้มี ส.ว.หลายคนเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง และหลังจากลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว และเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดในลักษณะของพฤติกรรมข่มขู่คุกคามจากคนบางกลุ่มกับ ส.ว. ที่ลงมติไม่ให้ความเห็นชอบนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่กลับมีคนบางกลุ่มแสดงความเกลียดชังต่อ ส.ว. และล่วงเลยไปถึงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลคนในครอบครัวและเครือญาติ กิจการธุรกิจที่ทำอยู่ ตนและนายสมชาย แสวงการ รวมถึง ส.ว.หลายคน เห็นว่าพฤติกรรมแบบนี้ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เป็นการแสดงออกซึ่งความก้าวร้าว ให้ร้ายคนอื่น ทำให้บุคคลอื่นเกรงกลัว การบังคับใช้กฎหมายให้สังคมอ่อนแอ ไม่มีใครเกรงกลัวกฎหมาย ใครจะพูดอะไรก็ได้ ด่าใครก็ได้หากไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่เห็นต่างจะออกมาให้ร้ายคนอื่น จนตอนนี้ลูกเด็กเล็กแดงที่อยู่ในโรงเรียนถูกข่มขืนคุกคาม ลูกหลานใครที่เห็นต่างจากบุคคลกลุ่มนี้ก็จะทำการกดดัน ไม่ให้อยู่ในกลุ่มหรือทำกิจกรรมด้วย
“คนกลุ่มนี้มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังให้เด็กไปกระทำผิด ดูหมิ่นสถาบัน เสียอนาคต ไม่มีใครกล้าออกมาปกป้องกล้าพูดถึง เพราะกลัวถูกด่าเรื่องถ้อยคำรุนแรง ไม่กล้าปกป้องแม้กระทั่งตัวเองและคนในครอบครัว จึงขอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต่อไปนี้ ส.ว. จะไม่ทนต่อพฤติกรรมที่เลวร้ายแบบนี้ ทำลายชาติ ทำลายสังคม ทำลายวิถีชีวิตที่ดีงามของคนไทย สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ส.ว. คือถูกด่าทอตลอดเวลา ตนจะดำเนินคดีกับคนที่ให้ร้ายคนอื่นดูหมิ่นเหยียดหยาม ไม่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพของคนอื่น โดยไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว 2 คดี คือ ทนายเดชา ลีกิจวัฒนะ และทนายอั๋น บุรีรัมย์ ว่าเพื่อให้สังคมตื่นและเข้าใจว่าเสรีภาพเป็นของทุกคน ใครละเมิดทำร้ายคนอื่นด้วยถ้อยคำพูดย่อมต้องรับผิดชอบ ต่อไปนี้จะดำเนินคดีกับคนที่ให้ร้ายในโซเชียล ทั้งทางแพ่งและทางอาญา จากนี้จะตรวจสอบให้หมด” นายเสรี กล่าว
ขณะที่นายสมชาย กล่าวว่า ความพยายามในการใช้ทุกช่องทางสื่อสารมายัง ส.ว. ถือเป็นการสื่อสารที่ผิด ในสภาฯ มีนักกฎหมายจำนวนมาก และเห็นตรงกันว่าไม่ควรปล่อยผ่าน ตอนนี้ครอบครัวของ ส.ว. ทั้ง 250 คน ถูกคุกคามทั้งหมด ส.ว. จึงแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมทั้งประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจที่มาสอบสวนสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจนรู้ตัวเจ้าของแอคเคาท์ทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะเพจที่เชิญชวนให้บุคคลอื่นคุกคาม ส.ว. บางแอคเคาท์ข่มขู่จะข่มขืนลูกสาว ส.ว.บางคน ทั้งกาย วาจา ใจ ขณะที่บางแอคเคาท์พบว่าเป็นเอไอยิงข้อความทีเดียว 4 แสนครั้ง หลังจากการลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น ยืนยันจะดำเนินคดีทั้งหมดให้ถึงที่สุด ไม่รับคำขอโทษ เพราะนี่ไม่ใช่วิถีทางในการแสดงออกถึงความเห็นต่างตามหลักประชาธิปไตย แต่เป็นการคุกคามบุคคลอื่น จึงขอเตือนให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้
ขณะที่นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ส.ว. กล่าวว่า ธุรกิจยาหมอเส็งได้รับผลกระทบอย่างมาก หลังจากการลงคะแนนเสียง โดยส่งข้อความโจมตีในเพจกว่าพันข้อความว่าขอให้เลิกซื้อเลิกสนับสนุน ส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างมาก แม้ว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้อกับธุรกิจดังกล่าว เพราะเป็นธุรกิจของพ่อ จึงปรึกษาตำรวจไซเบอร์และนักวิชาการ โดยจะดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์จะแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ แต่หากเป็นข้อความที่มีลักษณะคลุมเครือ แต่สร้างความเสียหายจะเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่ง
“ตนจะไม่โหวตให้นายพิธาในวันที่ 19 ก.ค. แน่นอน ประวัติของตระกูลของตนที่สามารถค้าขายได้ในวันนี้ เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกกระองค์ ทุกครั้งที่รวมญาติเราพูดกันเสมอว่าเราเป็นหนี้บุญคุณของแผ่นดิน ตนไม่กลัวทัวร์ลง ตนรักสถาบัน ถ้าจะทำลายก็ข้ามตนไปก่อน” นายวิวรรธน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย