ทำเนียบรัฐบาล17 ก.ค.-“ธนกร” ย้ำจะโหวตกี่ครั้งแต่เงื่อนไขแก้ ม.112 ทำ “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯ เลิกอ้าง 14 ล้านเสียง ถ้าไม่ถอย อีกฝั่งก็ไม่ถอย แนะให้พรรคอันดับ 2 เสนอชื่อ ถ้า 2 ไม่ได้ก็ 3 ระบุโอกาสทุกพรรคจับมือดันก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวก็มี
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะไม่เสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีแข่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหลายพรรคยืนยันตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ได้เสนอ ส่วนทิศทางการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง ยืนยันตั้งแต่ต้นแล้วว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีควรเสนอครั้งเดียว เพราะข้อเท็จจริงทุกพรรคการเมืองรวมถึงส.ว. ทราบวิสัยทัศน์ของนายพิธาแล้ว โหวตครั้งแรกไม่ผ่าน คะแนนห่างกันเยอะมาก ดังนั้น ควรเปิดโอกาสให้พรรคที่ได้อันดับสองและอันดับสามเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี เพราะไม่เช่นนั้นจะเสนอไปเรื่อย ๆ ทำให้เสียเวลาสภาฯ ส่วนที่ ส.ว. มองว่าโหวตนายพิธาเป็นญัตติซ้ำนั้น เป็นเรื่องข้อกฎหมายต้องไปดู
“วันนี้เรารู้อยู่แล้ว ไม่ว่าพรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาลหรือที่จะเป็นฝ่ายค้าน รู้ข้อมูลอยู่แล้วว่าวันนี้หากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ส.ว.ก็ไม่โหวตให้อยู่แล้ว ควรจะเลิกอ้างเรื่อง 14 ล้านเสียงได้แล้ว วันนี้คนไทยกว่า 70 ล้านคน และเชื่อว่าใน 14 ล้านเสียงที่เลือกพรคก้าวไกล มีเป็นล้านที่ไม่อยากให้แก้มาตรา 112 พรรคก้าวไกลก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้เพราะอะไร เมื่อไม่ถอย ฝั่งอื่นก็คงไม่ถอยเช่นกัน” นายธนกร กล่าว
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่าต้องพูดคุยกันในพรรค วันนี้สถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนเงื่อนไข หลายพรรคพูดจากันได้มากขึ้น ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเก่าก็พูดคุยอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะก่อนและหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีการพูดคุยติดตามข่าวสารบ้านเมืองตลอด
ส่วนช่วงเวลาใดที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมควรจะเสนอนายกรัฐมนตรีลงแข่ง นายธนกร กล่าวว่า ถ้าพรรคอันดับ 1 อันดับ 2 ไม่ได้ ต้องเป็นพรรคอันดับ 3 ถือเป็นความชอบธรรมของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้และถ้าวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ โหวตนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เพราะรู้อยู่แล้ว เราอย่าหลอกตัวเองดีกว่า วันนี้ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการเมืองจะเดินไปในทิศทางใด การเดินเกมในลัษณะ 2 ขา ฝั่งหนึ่งเป็นเสียงของส.ว. อีกฝั่งหนึ่งมีมวลชนไปบูลลี่ล่าแม่มด หรือปลุกม็อบลงถนนคิดว่าไม่ควร เราน่าจะเข้าใจระบบการเมือง ถ้าไม่ได้ก็เป็นฝ่ายค้าน
“ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านดีในการตรวจสอบรัฐบาล ถ้าเป็นฝ่ายค้านรอบหน้าพรรคพรคก้าวไกลอาจจะได้ส.ส.มากกว่าเดิม คิดว่าควรเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็ควรปล่อยให้การเมืองเดินหน้าต่อไป อย่าไปปลุกกระแสมวลชนลงถนน วันนี้ บ้านเมืองมีความสงบ หลายอย่างกำลังดีขึ้น ในสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมวางรากฐานไว้ รักษาประเทศไว้ดีกว่า” นายธนกร กล่าว
ส่วนการล่าแม่มดจะทำให้ส.ว.หวาดกลัว แล้วหันมาโหวตให้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ได้กลัวการกระทำแบบนี้และกฎหมายแรง ที่ผ่านมาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำให้ติดคุกหลายคนแล้ว วันนี้มีการไปฟ้องร้องและขอโทษทีหลังจำนวนมาก คิดว่าไม่ควรทำแล้ว เพราะเวลาถูกดำเนินคดีไม่มีใครช่วย ไม่ว่าใคร ทั้งฝ่ายตนก็ไม่อยากให้มีมวลชนไปเคลื่อนไหวในโซเชียล เป็นคนไทยด้วยกันควรพูดจากัน การเมืองก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของการเมือง แต่การเลือกนายกรัฐมนตรีไม่อยากให้ใช้เวลานาน ภาคเอกชนก็อยากให้มีรัฐบาลโดยเร็ว
นายธนกร กล่าวถึงการที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่าพรรคพรรคร่วมรัฐบาลเดิมแจกกล้วย ว่า ไม่มี ลูกไม้เดิม ๆ ไม่มีหรอก ไม่มีใครทำแบบนี้แล้ว เพราะการจะดึงเสียง 60-70 เสียง ไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องแบบนี้ไม่มีและไม่ควรมี เชื่อว่า เป็นการพูดเพื่อดิสเครดิตมากกว่า ซึ่งไม่ควร
ส่วนหาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนตัวผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ มีจุดยืนอย่างไร นายธนกร กล่าวว่า เป็นไปตามกลไกของสภา สามารถเสนอได้ แต่ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ เป็นเงื่อนไขพิเศษที่ผ่านยาก เพราะต้องการแก้มาตรา 112 ต้องปรับ ตนมองว่านายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้เหมือนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสพูดว่านายพิธา มีความรู้ความสามารถ พูดจาดี แต่ไม่ทราบว่ากลไกของพรรคปกคลุมด้วยอะไรเท่านั้นเอง
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้หรือไม่ที่ทุกพรรคจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล โดยให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายธนกร กล่าวว่า เป็นไปได้หมด เพราะรู้อยู่แล้วว่าเงื่อนไขอยู่ตรงไหน คิดว่าเมื่อถึงเวลาทุกอย่างจบ วันนี้ต้องใช้เวลา แต่ไม่ควรนานเกินไป เพราะประชาชนรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ แต่ถ้านักการเมืองพยายามชี้แจงจะเข้าใจ เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ ทุกคนรู้ว่า สถานการณ์ทางการเมืองไปในทิศทางใด แต่ระบบกลไกที่ใช้โซเชียลมีเดีย หรือ AI ที่ไปสร้างความเกลียดชังในสังคม ไม่ควรทำ
“ในเมื่อพรรคอันดับหนึ่งอันดับสองไม่ได้ ก็ควรเป็นพรรคอันดับสามเท่านั้นเอง ไม่ใช่ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วจะเป็นจะตาย พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ผมก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ไม่เห็นเป็นอะไร วันนี้ เป็นรัฐบาลรักษาการ พรุ่งนี้ไม่ได้เป็น ก็เป็นเรื่องปกติ ชีวิตสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศได้ อย่าไปยึดติดกับมันมาก” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่นายพีระพันธุ์บอกแล้วว่าจะไม่ลงแข่งโหวตเลือกนายกฯ.-สำนักข่าวไทย