กรุงเทพฯ 5 ก.ค.-บีทีเอส มั่นใจจะได้รับการชำระหนี้ แม้ ครม.วันนี้ โยนให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณา โดย กทม. เสนอของบฯ สนับสนุน 78,830 ล้านบาท
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กล่าวว่า กล่าวถึง มติครม.วันนี้ ที่ระบุว่า ให้ รับบาลชุดใหม่เป็นผู้พิจารณาแก้ไขปัญหากรณีสัญญาเดินรถและการสนับสนุนงบประมาณโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ว่า ยังเชื่อมั่นภาครัฐว่าเมื่อลูกหนี้เป็นฝ่ายรัฐ ซึ่งมีเครดิตที่ดีแล้ว ท้ายที่สุดโครงการนี้จะได้รับการแก้ไขปัญหา และบีทีเอสจะได้รับการชำระระหนี้ โดยขณะนี้หนี้มีรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท เป็นหนี้การเดินรถ และหนี้ติดตั้งระบบ โดยเรื่องการชำระหนี้ในขณะนี้ได้หารือกับทาง กทม.อย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องสัญญาสัมปทานก็คงต้องรอรัฐบาลใหม่มาพิจารณาต่อเนื่อง
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว พร้อมรายงานให้ทราบว่า กรุงเทพมหานคร(กทม.) ต้องการให้นำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมทั้งขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสำหรับค่าก่อสร้าง และดอกเบี้ยในอนาคตทั้งหมด
โดยปัจจุบัน กทม. มีภาระหนี้จากงานโครงสร้างพื้นฐาน และงานซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบการเดินรถ รวมทั้งสิ้น78,830 ล้านบาทเศษ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 มี.ค.66) ประกอบไปด้วย
-รายการค่างานโครงสร้างพื้นฐานและค่าจัดกรรมสิทธิ์ 55,034.70 ล้านบาท
-ค่าดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสำหรับเงินกู้โครงสร้างพื้นฐานที่ กทม. ได้จ่ายให้ กค. ตั้งแต่ปี 2562-2565 จำนวน 1,508.93 ล้านบาท
-ค่าจ้างงานซื้อขาย พร้อมติดตั้งระบบการเดินรถ 22,287.23 ล้านบาท
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการชำระหนี้บีทีเอส ว่า ปัจจุบันคณะกรรมการวิสามัญศึกษาระบบขนส่งมวลชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ประชุมรายละเอียดแล้ว โดยเชิญเอกชนมาร่วมให้ข้อมูลด้วย ถามว่าทำไม กทม.ยังไม่จ่ายหนี้บีทีเอส เพราะสุดท้ายแล้วต้องผ่านสภากรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาที่ไม่ได้ผ่านสภากทม.ตั้งแต่แรก และการนำเงินสะสมจ่ายขาดของกทม.มาจ่ายก็ต้องผ่านการพิจารณาของสภากทม.ทั้งสิ้น หากทุกอย่างผ่านการพิจารณาของสภากทม.จะทำให้ดำเนินการสะดวกขึ้น เข้าใจว่าเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะนำเข้าคณะรัฐมนตรีวันนี้ เป็นเรื่องแจ้งเพื่อทราบ ซึ่งอยากให้เห็นว่า กทม.ได้แจ้งกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว
สำหรับสิ่งที่ กทม.แจ้งเพื่อทราบแก่คณะรัฐมนตรี คือ 1.อยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่าโครงสร้างพื้นฐาน (E&M) เพื่อลดภาระของ กทม. หากรัฐช่วยลงทุนก็สามารถเก็บภาษีคืนกลับได้ในระยะยาว 2.มาตรา 44 ที่กำหนดว่า ให้นำหนี้มารวมเป็นการต่อสัมปทานเดินรถ ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุปจากคณะรัฐมนตรี จึงเป็นเหตุผลที่ กทม.ไม่ได้จ่ายค่าจ้างเดินรถแก่บีทีเอสเป็นเวลานาน เพราะว่าอยู่ในเงื่อนไขของการนำหนี้ไปต่อสัญญาสัมปทาน โดยเฉพาะเงื่อนไขจากมาตรา44 ยังไม่ได้ข้อสรุปจากคณะรัฐมนตรี กทม.จึงยังดำเนินการต่อไม่ได้ เพราะเรื่องยังค้างอยู่กับคณะรัฐมนตรี 3.หากมีการต่อสัญญาสัมปทานจริง ขอให้เป็นไปอย่างโปร่งใส .–สำนักข่าวไทย