มธ. 17 มิ.ย.- “รังสิมันต์ โรม” ลั่น เตรียมปฏิรูปตำรวจทันทีที่สภาเปิด และ “พิธา” เป็นนายกฯ ชงยุบ ก.ต.ช. ให้เหลือเฉพาะ ก.ตร. ดูแลทั้งระบบ เพราะประหยัดงบประมาณ แก้งานซ้ำซ้อน พร้อมรับพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 ปัญหาเยอะ
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกรีดไถ ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งมีข่าวไม่ดีเยอะ และที่ผ่านมาปัญหาของตำรวจยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับเรื่องตำรวจ และเป็นหนึ่งในกฎหมายที่พรรคฯ จะยื่นเข้าสู่สภาฯ ใน 4-5 ฉบับ ดังนั้นยืนยันว่าพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการปฏิรูปตำรวจ ที่ผ่านมาไม่อยากจะพูดตรงๆ ให้ตำรวจดีๆ เสียใจ แต่ต้องยอมรับตำรวจมีข่าวฉาวรายวัน แต่ละเรื่องไม่เคยเรียบร้อยและมีเรื่องใหม่มาตลอด เช่น เรื่องรีดไถ่ เป็นเรื่องที่พรรคยอมรับไม่ได้ ต้องตรวจสอบ ขณะนี้พรรคก้าวไกล เข้าไปสั่ง หรือ แทรกแซงไม่ได้
นายรังสิมันต์ ยืนยันหากพรรคมีโอกาส และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสตช. อยู่ภายใต้กำกับของนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล จะเข้ามาชำระล้างคนไม่ดีที่อยู่ในองค์กรออกไป และปฏิรูป ปรับปรุงโครงสร้างแน่นอน เพื่อให้องค์กรตำรวจเป็นองค์กรที่มีคุณภาพมากสุด และคนที่มีความรู้ความสามารถ มีผลงาน สามารถเติบโตได้ ดังนั้นเรื่องตั๋วและเส้นสาย เชื่อว่าจะได้ตำรวจที่พร้อมทำหน้าที่เพื่อประชาชน ไม่ใช่จับคนร้ายแล้วรีดไถ ดังนั้นปฏิรูปตำรวจเพื่อให้ตำรวจได้ทำหน้าที่เพื่อประขาชนที่แท้จริง และทำให้ตำรวจเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า องค์กรตำรวจมีหน่วยงานซ้ำซ้อน ทั้ง ก.ตร. และ ก.ต.ช. ซึ่ง ก.ต.ช.เป็นการออกแบบทำเรื่องนโยบาย ส่วน ก.ตร. เป็นการบริหารบุคคล หากรวมกันก็ประหยัดงบประมาณมากกว่า ซึ่งอาจจะมี ก.ตร.ที่ทำเรื่องนโยบายและบริหารบุคคล ส่วนจะยกเลิกระบบอาสุโสในการแต่งตั้งหรือไม่ ยังสรุปไม่ได้ แต่ต้องหาจุดที่ทุกฝ่ายรับได้หากใช้ระบบอาวุโส 100% อาจเป็นผลร้ายกับประชาชน แต่ถ้าไม่มีระบบอาวุโสเลย ตำรวจจะยอมรับหรือไม่ ทั้งนี้จะต้องดึงตำรวจทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบระบบให้ดีที่สุด
นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่าเหตุการณ์รีดไถที่ชลบุรี ยังไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียด ทางพรรคฯ ยังไม่มีข้อมูลอะไร
ส่วนกรณี “หยก” เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง กับการศึกษาต่อที่โรงเรียน ระบุว่า เป็นเรื่องการตัดสินใจส่วนตัวและไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล ไม่เคยอยู่เบื้องหลัง แต่อย่างไรก็ตามเห็นว่าเด็กไม่ควรถูกผลักออกจากระบบการศึกษาและทุกฝ่ายต้องพูดคุยหารือเจรจาร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ทางทีมการศึกษาของพรรคก้าวไกลยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือติดตามในเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย