“โรม” ผิดหวังไร้คำตอบ 4 ลูกเรือไทย จวกเมียนมาทำเกินกว่าเหตุ

รัฐสภา 13 ธ.ค.- “โรม” ผิดหวังไร้คำตอบ 4 ลูกเรือไทยจะได้กลับมาตุภูมิเมื่อใด แนะรัฐบาลต้องประท้วงเข้มแข็งมากกว่านี้ ขณะหน่วยงานเกี่ยวข้องทำเต็มที่แล้ว จวกเมียนมาทำเกินกว่าเหตุ ลูกเรือคอลหา กมธ.มั่นคงฯ เล่าเหตุการณ์ถูกไล่ยิงไม่หยุด อ้างข้อมูลปล่อยตัวช้า เหตุมีลูกเรือชาวเมียนมาต่อต้านรัฐบาล ไม่เกี่ยวประมงไทย


นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวภายหลังการประชุมที่เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงกรณีเรือประมงไทยถูกทหารเมียนมายิง ว่า ต้องยอมรับยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วหรือป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ แต่สิ่งที่ต้องย้ำเตือนคือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประมงไทยเป็นเหตุการณ์เกินกว่าเหตุมาก ซึ่งได้รับข้อมูลว่าได้มีการใช้กลไกคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย – เมียนมา หรือTBC ในการคัดค้าน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วใช้ความรุนแรงเช่นนี้แล้ว ตนมีความเห็นว่าเรื่องนี้ท่าทีของไทยควรจะเป็นท่าทีที่ต้องเข้มแข็งมากกว่านี้ เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศก็พยายามติดตามช่วยเหลือ 4 คนไทย ซึ่งก็ได้ให้กำลังใจกับหน่วยงานของรัฐในการช่วยเหลือคนไทย แต่ก็ไม่สามารถได้ตอบได้ว่าเมื่อใดที่คนไทยทั้ง 4 คนจะกลับสู่มาตุภูมิ ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องติดตามต่อไป และจะแสวงหาข้อมูลจากทางอื่นๆ ทั้งนี้ทราบพิกัดจุดเกิดเหตุแล้ว แต่สาระสำคัญคือความรุนแรงที่เกิดขึ้นทางการไทยอาจต้องแสดงท่าทีที่เข้มแข็ง ว่าเหตุการณ์เช่นนี้ที่เกิดขึ้นโดยกองทัพเรือของเมียนมาเกินกว่าเหตุและไทยไม่สามารถยอมรับได้ เราอาจจะต้องประท้วงในลักษณะเข้มแข็งมากกว่านี้

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า ตอบยากมากเรื่องความชัดเจนว่าคนไทย 4 คนจะได้กลับเมื่อใด เพราะอยูที่ทางการเมียนมาจะส่งคนไทยให้หรือไม่ พร้อมย้ำไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ว่า ลูกเรือประมงคนไทยจะกลับสู่มาตุภูมิเมื่อใด และเรือประมงที่ถูกยิงเสียหายใครจะเป็นคนจ่ายชดใช้ค่าเสียหาย ไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือประมง ไม่มีการเตือนหรือแจ้งล่วงหน้า แต่เป็นการยิงเข้ากลางลำเรือ อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้หลักสิบถ้าไม่หนี และวันนี้ลูกเรือไทยผู้ร้องที่ถูกยิงเฉียดศีรษะและอยู่ในเหตุการณ์วีดีโอคอลมาเล่าให้กรรมาธิการฯฟังว่าพยายามหนีเพราะไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิง แม้จะขับเรือออกห่างจากเรือที่ยิง ก็ยังมีการไล่ยิงต่อ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่เราได้รับ แสดงให้เห็นว่ากองทัพเรือเมียนมาใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะเรือที่ติดธงชาติไทย ขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แม้ว่าพื้นที่ตรงนั้นอาจจะยังไม่มีความชัดเจนหรือเป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่วิธีการนี้เป็นวิธีการรุนแรงและทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศด้วย


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อมูลอื่นนอกจากเป็นเรือประมงปกติหรือไม่ทำให้เมียนมาไม่ยอมปล่อยตัว นายรังสิมันต์ ยอมรับว่ามีข้อมูลในทำนองว่าทางเมียนมามองว่าลูกเรือบางคนที่เป็นคนเมียนมา อาจเกี่ยวข้องกับการต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ไม่ทราบข้อมูลข้อเท็จจริง แต่เป็นคนละเรื่องกับลูกเรือของไทย

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่าจากเดิมได้รับข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศว่าวันที่ 5 ธันวาคมลูกเรือทั้ง 4 ควรจะได้กลับบ้านแต่ก็ไม่ทราบสาเหตุว่าสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่สามารถกลับได้ และไม่มีคำอธิบายชี้แจงใดๆ เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามช่วยเหลือลูกเรือ ไม่ได้มีแนวทางว่าจะเพิ่มแรงกดดันไปมากกว่านี้ ไม่มีข้อมูลไหลเข้าสู่กรรมาธิการเรื่องแนวทางที่จะมีการยกระดับไปมากกว่านี้ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลควรจะยกระดับเพื่อช่วยเหลือ ดังนั้นตนเห็นว่าท่าทีของรัฐบาลไทยอ่อนเกินไป ควรจะทำให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะปกป้องได้ ขณะที่ผู้ปฏิบัติงานตัดสินใจได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือส่วนหัวหรือรัฐบาลจะเอาอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลควรต้องสร้างหลักประกันให้คนไทยว่าตกลงจะได้รับความปลอดภัย ต้องแสดงท่าทีเข้มแข็งอยากเห็นความเป็นเอกภาพของทุกฝ่ายในการแสดงออกว่าเราพร้อมที่จะปกป้องคนไทย ถ้าเรายังไม่มีความชัดเจนไม่ควรเอาเรื่องเขตการมาปนกับความก้าวร้าวแบบนี้ ถ้าล้ำจริงก็ไม่เห็นถึงขนาดต้องยิง ใช้มาตรการเบาไปหาหนักได้.-319 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ปิดด่านคลองลึกวันแรกเงียบเหงา ชาวกัมพูชารอข้ามแดน

สระแก้ว 24 มิ.ย.-บรรยากาศการปิดด่านพรมแดนคลองลึก จ.สระแก้ว วันแรก เงียบเหงา มีนักเรียนข้ามแดนบางตา ขณะที่ชาวกัมพูชามานั่งรอเพื่อข้ามแดนกลับประเทศ สถานการณ์ที่ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังกองทัพมีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา เช้าวันนี้มีชาวกัมพูชาประมาณ 40 คนที่พากันมานั่งรอ เพราะคาดหวังว่าจะได้ข้ามกลับไปกัมพูชา ส่วนนักเรียนข้ามแดนค่อนข้างบางตา แม้ว่าทางการอนุญาตให้นักเรียนสามารถเดินทางข้ามแดนไป-กลับเพื่อศึกษาเล่าเรียนได้ในช่วงเวลา 06.00 น. และ 17.00 น. ของแต่ละวัน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จว.สระแก้ว ก็ได้นำกำลัง ตร.ควบคุมฝูงชน 170 นาย เข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย และคอยช่วย จนท.ตม.ทำความเข้าใจกับชาวกัมพูชา ที่มารอข้ามแดน ซึ่งหลังจากที่มีคนเริ่มมารอมากขึ้น จึงได้มีการประกาศให้ทราบว่า ในวันนี้ช่วงเวลา 17.00-20.00 น. จึงจะเปิดด่าน ให้ชาวกัมพูชาสามารถข้ามกลับไปยังประเทศของตนได้ เนื่องจากคนที่มารอมีทั้งคนที่ไม่ทราบข่าวว่ามีการปิดด่าน และคนที่ทราบ ก็มาโดยที่คาดว่าอาจจะไม่เข้มงวดขนาดนั้น แต่ที่สุดก็ต้องนั่งรอเพื่อข้ามแดนพร้อมกับคนอื่นๆ ในช่วงเย็นวันนี้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าใจดีถึงสถานการณ์ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากชาวกัมพูชา ก็มีชาวไทยและชาวต่างชาติอีกประปราย ที่เดินทางมาขอข้ามแดนเพื่อไปทำงานหรือทำธุระ แต่ภาพรวมขณะนี้ยังถือมีความเรียบร้อยดี.-สำนักข่าวไทย

พล.อ.ประยุทธ์-นายกฯ เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราช

วัดราชบพิธ 24 มิ.ย.-พล.อ.ประยุทธ์-นายกฯ พร้อมคู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 26 มิถุนายน 2568 นายกฯ เผยพบทักทาย พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ไม่ตอบฝากอะไรถึงสถานการณ์บ้านเมืองหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 26 มิถุนายน 2568 ณ พระตำหนักอรุณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเวลา 09.05 น. โดยได้วางพวงมาลัยถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณข้างอุโบสถ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ต่อมาเวลา 09.08 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี องคมนตรี ได้เดินทางมาถึง เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก […]

‘ทรัมป์’ ระบุอิสราเอล-อิหร่านตกลงหยุดยิงแล้ว

วอชิงตัน 24 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศในวันจันทร์ ถึงการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งน่าจะเป็นการยุติสงครามที่ดำเนินมา 12 วันระหว่างทั้งสองฝ่าย ที่ทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องอพยพออกจากกรุงเตหะรานของอิหร่าน และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการยกระดับความรุนแรงในภูมิภาคที่บอบช้ำจากสงคราม นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของเขาว่า ด้วยสมมติฐานว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่สมควร เขาขอแสดงความยินดีกับทั้งสองประเทศ ทั้งอิสราเอลและอิหร่าน ที่มีทั้งความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และสติปัญญาในการยุติสิ่งที่ควรจะเรียกว่า ‘สงคราม 12 วัน’   ขณะนี้ยังไม่มีความคิดเห็นจากอิสราเอลในทันทีในเรื่องหยุดยิง แม้ว่าเจ้าหน้าที่อิหร่านรายหนึ่งได้ยืนยันก่อนหน้านี้ว่าเตหะรานตกลงที่จะหยุดยิงแล้ว แต่รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่าจะไม่มีการยุติการสู้รบเว้นแต่อิสราเอลจะหยุดการโจมตี อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเมื่อช่วงเช้าวันอังคารว่า หากอิสราเอลหยุด “การรุกรานที่ผิดกฎหมาย” ต่อชาวอิหร่านไม่เกินเวลา 04.00 น. เช้าวันอังคารตามเวลาอิหร่าน หรือตรงกับ 7.30 น. ของวันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย อิหร่านก็ไม่มีเจตนาที่จะดำเนินการตอบโต้ต่อไป จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านนับตั้งแต่เวลานั้น นายอารากชีกล่าวเสริมในโพสต์ข้อความผ่านทางเอ็กซ์ว่า การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการยุติปฏิบัติการทางทหารของอิหร่านจะมีการตัดสินใจในภายหลัง อิสราเอล ซึ่งมีสหรัฐเข้าร่วมด้วยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลงมือโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากกล่าวหาว่าอิหร่านใกล้จะครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวกล่าวว่า […]

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]