สำนักข่าวไทย 23 พ.ค. – จิตแพทย์แนะใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว หลังพบคู่รักทำร้ายแฟนสาว-บังคับกินอุจจาระหมา และทำร้ายหมาตายหลายตัว
นพ.ยงยุทธ วงค์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีข่าวหนุ่มทำร้ายแฟนสาวและบังคับกินขี้หมา ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่จิตแพทย์มาวิเคราะห์พฤติกรรมคน แต่ลักษณะการกระทำรุนแรงในครอบครัว มักมีสาเหตุมาจาก 1.ความเครียด หรืออารมณ์ 2.มาจากบุคลิกติดตาม การต่อต้านสังคม เป็นการกระทำที่ไม่รู้สึกผิด พบว่ามีความสัมพันธ์กับการเลี้ยงดู เช่น วัยเด็ก เคยถูกทอดทิ้ง หรือใช้ความรุนแรง ขาดความรัก ขาดความอบอุ่น หรือมีพฤติกรรมชอบรังแกคนอื่น ทำร้ายสัตว์
นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า เหยื่อของความรุนแรง ได้แก่ เด็ก คู่ครอง และคนแก่ ซึ่งความรุนแรงที่มักพบเห็นจะมาจากคนใกล้ชิด หรือคนในครอบครัว เข้าใจว่ากฎหมายให้โอกาส ขอความช่วยเหลือจากบุคลากร เจ้าหน้าที่รัฐ ทั้ง ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว เข้าไปจัดการให้ความช่วยเหลือ โดยจะมีการประเมินภาวะสุขภาพจิตของผู้ก่อเหตุ ว่า สามารถปรับเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ หรือต้องรับโทษ ถ้าสามารถปรับพฤติกรรมได้ ไม่ต้องรับโทษ แต่ถ้าปรับพฤติกรรมไม่ได้ ก็ให้เข้าสู่คดีอาญาตามปกติ ดังนั้น ทุกครอบครัวไม่ควรลังเลใจที่จะขอความช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำฯ เพราะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราและตัวเค้า ถือว่าเป็นการช่วยทั้ง 2 ฝ่าย ดีกว่าต้องอยู่ในภาวะหาทางออกไม่เจอ จำทนไปเรื่อย ยืดเยื้อยาวนาน การถูกทำร้ายนานวันเข้าก็ทวีความรุนแรงและเสียชีวิตในที่สุด นอกจากนี้ ตามพ.ร.บ.นี้ ยังเปิดให้เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง ที่เห็นเหตุการณ์สามารถแจ้งความ และเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อยุติความรุนแรง.-สำนักข่าวไทย