เชียงใหม่ 10 มิ.ย. – ช่วงนี้พาไปเที่ยวชมงานวันมะม่วงและของดีเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเพิ่งผ่านพ้นไป มีทั้งมะม่วงใหญ่ยักษ์หนักกว่า 2 กิโลกรัม และมะม่วงพันธุ์ดีที่ส่งขายไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงกำลังขึ้นชั้นเป็นว่าที่ผลไม้เศรษฐกิจของ จ.เชียงใหม่ และเร่งส่งเสริมการแปรรูปมะม่วงเป็นสินค้าให้หลากหลายขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าแตะพันล้านบาทในเร็วๆ นี้
ภายในงานที่จัดขึ้นบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถูกเนรมิตให้เป็นแหล่งรวมมะม่วงหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งที่นำมาแสดงและจำหน่าย กลายเป็นตลาดนัดมะม่วง แม้แต่ในพิธีเปิดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังใช้การตัดมะม่วงจากต้นเปิดงาน สมกับที่เป็นงานวันมะม่วงจริงๆ
นอกจากการจำหน่ายมะม่วงที่มีให้เลือกซื้อเลือกชิมมากมายแล้ว งานนี้ยังมีการประกวดมะม่วงด้วย โดยเฉพาะการประกวดมะม่วงใหญ่ยักษ์ไม่จำกัดสายพันธุ์ เน้นขนาดอย่างเดียว ซึ่งปรากฏว่าที่ 1 เป็นมะม่วงพันธุ์เจ้าลงกา น้ำหนักถึง 2.4 กิโลกรัม เรียกว่าลูกเดียวกินกันได้ทั้งบ้าน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร บอกว่า เป็นมะม่วงที่ไม่ค่อยนิยมกินกัน เพราะรสชาติไม่อร่อย แต่ปลูกไว้เพื่อความสวยงาม ไว้ดูเล่นมากกว่า
ถ้าจะเอาอร่อยหวาน ทำเงินได้ เป็นมะม่วงพันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดของ จ.เชียงใหม่ และส่งขายไปหลายประเทศทั่วโลก ต้องมะม่วงน้ำดอกไม้ ทั้งพันธุ์เบอร์ 4 และมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ซึ่งการประกวดต้องคัดสรรไม่แพ้การประกวดนางงาม ทั้งรูปร่างหน้าตามะม่วงต้องดูสวยสมส่วน ขนาดต้องพอดี ลูกละ 3-5 ขีด ผิวสวย ผ่าดูข้างในเนื้อต้องดี ที่สำคัญต้องหวานฉ่ำ ถึงขั้นวัดความหวานตัดสินกันเลยทีเดียว แต่ถ้าจะอร่อยต้องมีอมเปรี้ยวนิดๆ ถึงจะกลมกล่อม
งานวันมะม่วงและของดีเมืองเชียงใหม่ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 แล้ว เพื่อเผยแพร่มะม่วงของ จ.เชียงใหม่ ซึ่งปลูกกันกว่า 50,000 ไร่ ให้ผลผลิตปีละกว่า 70,000 ตัน มากกว่าร้อยละ 60 เป็นมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ ขายทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้ปีละ 300-700 ล้านบาท และขยับมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังมีมะม่วงที่ปลูกอีกหลายพันธุ์ ทั้งมหาชนก โชคอนันต์ มันขุนศรี และกลุ่มเกษตรกรเริ่มแปรรูปมะม่วงเป็นสินค้าหลากหลายมากขึ้น มีทั้งน้ำมะม่วงมหาชนก มะม่วงแผ่น มะม่วงอบแห้ง ส่งขายในตลาด ทำให้มะม่วงกำลังขึ้นชั้นเป็นว่าที่ผลไม้เศรษฐกิจและของดีอีกอย่างของ จ.เชียงใหม่ ที่จะทำรายได้แตะพันล้านได้ไม่ยากในอนาคตอันใกล้นี้. – สำนักข่าวไทย