นนทบุรี 9 มิ.ย. – ประธาน อคส.เชิญ 13 หน่วยงาน ประชุมแผนรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรช่วงปริมาณออกมากไม่ต่ำกว่า 1 แสนตัน แต่หวั่นอาจเกิดปัญหาปะปน จึงสั่งกลับไปพิจารณาหลักเกณฑ์รับซื้อให้ชัดเจน นัดประชุมใหม่สัปดาห์หน้า
พลตำรวจโทไกรบุตร ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวภายหลังประชุมหลักเกณฑ์และวิธีการซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสตอกของ อคส.ปี 2560 ร่วมกับ 13 หน่วยงาน เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกปาล์มน้ำมันดิบ ว่า ที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปทบทวนเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันใหม่ก่อนเสนอที่ประชุมใหม่อีกครั้งสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีความกังวลหาก อคส.ซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อส่งให้โรงสกัดอาจจะทำให้ผลปาล์มที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการปะปน ทำให้ได้เปอร์เซนต์น้ำมันไม่ได้คุณภาพ
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นที่จะกลับไปใช้มาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกปาล์มเดิมปี 2558 โดยการให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลผลิตปาล์มผลสดและให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โรงงานผลิตไบโอดีเซล และผู้รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบทั่วไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 26.20 บาท เพราะเห็นว่าหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการรับซื้อใหม่ไม่ประสบผลสำเร็จ
สำหรับมติคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ล่าสุดกำหนดให้ อคส.รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเปอร์เซนต์น้ำมัน 18 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเก็บสตอกปริมาณ 100,000 ตัน ในช่วงที่มีผลปาล์มน้ำมันมีราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.50 บาท และน้ำมันปาล์มดิบกิโลกรัมละ 26.20 บาท โดยใช้เงิน คชก.ประมาณ 3,000 ล้านบาท กำหนดระยะเวลารับซื้อตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ธันวาคม 2560 และจะเริ่มระบายผลผลิตช่วงเดือนมิถุนายน 2560-เมษายน 2561 สำหรับผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร มีพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันไม่เกิน 70 ไร่ ผลผลิตไม่เกิน 3 ตันต่อไร่ต่อปี เป็นต้น
ทั้งนี้ 13 หน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมการค้าภายใน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม สมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาลม์ สมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำปาล์มแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สภาเกษตรจังหวัดกระบี่ สภาเกษตรจังหวัดชุมพร และสภาเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี .-สำนักข่าวไทย