นครศรีธรรมราช 11 พ.ค.- พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัยโค้งสุดท้ายนครศรีธรรมราช มูเตลูศาลหลักเมือง ขอบ้านเมือง-สถาบัน-คนไทย ปลอดภัย รทสช. ได้ ส.ส.ยกจังหวัด บอกรักจังหู้ทั้งวันเป็นทหารโกหกไม่ได้
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ เลขาธิการพรรค และแกนนำพรรค ช่วยผู้สมัครหาเสียง ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ สนามหน้าเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ก่อนที่พลเอกประยุทธ์ จะมายังเวทีปราศรัยได้ทำพิธีบวงสรวง ศาลหลักเมืองท้าวจตุคามรามเทพ โดยพลเอกประยุทธ์เปิดเผยว่าได้ อธิษฐานให้บ้านเมืองปลอดภัยให้คนไทยปลอดภัย ให้คนนครศรีธรรมราชปลอดภัยให้พักรวมไทยสร้างชาติประสบความสำเร็จ และขอให้ได้สสทั้งจังหวัด และขอให้ตัวเองอีกหน่อยนึงคือขอให้พลเอกประยุทธ์ปลอดภัยเพราะทุกวันจนเสี่ยงทุกวันถึงไม่ทะเลาะกับใครก็เสี่ยงอยู่
โดย พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่มาพบปะกับชาวนครศรีธรรมราชอย่างพร้อมเพียงกัน ซึ่งถือเป็นเวทีสุดท้ายของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ยังไม่ท้ายที่สุด เราต้องเจอกันอีกในวันเลือกตั้ง หลายคนเจอกันแล้ว ตนประทับใจในการมาภาคใต้ในครั้งนี้ มาวันนี้ต้องการให้ทุกคนให้กำลังใจให้ ส.ส.ของพวกเราด้วย ก่อนที่จะแนะนำผู้สมัครทั้ง 10 เขต เดี๋ยวจะไปจับมือ ผมดีใจจริงๆตั้งแต่เช้าเห็นถึงแววตาเห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจที่สำคัญที่มาทำงานกับรวมไทยสร้างชาติที่จะพัฒนาประเทศไทยของเรา ให้มีอะไรไปสู่อนาคตที่มั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน
ขณะเดียวกันพลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า รู้ถึงความเดือดร้อนรู้ถึงปัญหาแก้มาได้ส่วนหนึ่งแก้ยังไม่ได้อีกหลายส่วน ทุกอย่างอยู่ในหัวใจของคนๆนี้ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และทำใหม่ มาเมื่อเช้าเดินทางมานครศรีธรรมราชไม่เสียชื่อคนนครศรีธรรมราช รักลุงตู่ไหม พี่ตู่ก็รับคนนครเป็นร้อยเท่า เราต้องรักกันเท่านั้น รักกันจริงใจต่อกัน ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเอง นี่คือพรรครวมไทยสร้างชาติเราจะทำงานเพื่อประเทศชาติของเรา และเพื่อประชาชนให้ดีที่สุด เราจะไม่พูดถึงเรื่องเก่าอีกแล้ว แต่จะพูดถึงเรื่องใหม่จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวสู่ประเทศชั้นนำในเวทีโลก ไม่มีใครเกลียดประเทศไทย อยากมาลงทุนในประเทศไทย ที่ผ่านมามีคนพูดจะให้นู่นให้นี่แต่ไม่มีใครบอกถึงวิธีการหาเงินเข้าประเทศ วันนี้เราปลอดภัย แต่ก็ต้องระวังโควิด 19 อยู่ ส่วนที่ต่างประเทศเลือกไทยเป็นฐานการลงทุนและเดินทางมาท่องเที่ยวเพราะเขาเชื่อมั่นในลุงตู่
นี่คือประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งสันติภาพดินแดนแห่งความสงบสุข รักจริงๆรักจังหู้ นี่ ผมพูดกับคนไทยของผมในนามนายกรัฐมนตรี ผมไม่เคยโกหกท่านเป็นทหารมาก่อนจะโกหกได้หรือไม่ บางคนก็มีเหมือนกันนะ แต่ผมไม่มี แผ่นดินผืนนี้เป็นของใคร ของคนไทยทุกคน เหยียบดินตรงนี้ สะเทือนไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ด้วย คนเยอะขนานนี้นี้ นี่คือพลังแผ่นดินพลังของพวกเราทุกคนที่จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย เราต้องรักกัน ข้างบ้านอย่าทะเลาะกัน ผัวเมียอย่าทะเลาะกัน
ก่อนที่จะแซวประชาชนที่มารอฟังการปราศรัยว่าคนสวยเยอะมาก คนหล่อมีหรือไม่ ผมขอมอบหัวใจให้คนนครทั้ง 4 ห้องและมอบให้คนไทยทั้งชาติด้วย วันนี้มาเท่าไหร่นี่ หลายหมื่นคน ขอคนไทยรักกันให้ทั่วประเทศ ขอหัวใจคนนครฯให้ส.ส.เขตของผมได้หรือไม่ สัญญาคือสัญญา รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ และรักมากขึ้นไปเรื่อยๆ รักแรง หัวใจที่ยิ่งใหญ่จะต้องรับคนให้ได้มากๆผมจำเป็นต้องดูแลคนทั้งประเทศ 70 ล้านคน เราสัญญาว่าพรรรคของเราจะทำให้คน 70 ล้านคนให้ดีขึ้นมีรายได้สูงขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการทำสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ผมในฐานะเคยบริหารอยู่แล้ว มาขอสัญญากับชาวนครศรีธรรมราช ว่าเราจะร่วมมือกัน ซึ่งระหว่างและพลเอกประยุทธ์และ ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ขอให้จับมือกันนครไปไม่ได้กรุงเทพฯก็ไปไม่ได้ทุกจังหวัดก็เดินหน้าไปไม่ได้แล้วมันจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไรหากเราไม่ร่วมมือกัน อย่าไปทะเลาะเบาะแว้ง อย่าไปแก่งแย่ง อย่าไปว่าใคร พระสอนไว้สิ่งที่ว่าเขาจะสะท้อนเข้าตัวทั้งหมด
โดย พลเอกประยุทธ์ ยังย้ำอีกว่า เราจำเป็นต้องมีผู้นำที่แข็งแกร่งมีประสบการณ์ใช่หรือไม่พูดแล้วต้องทำให้ได้ใช่หรือไม่ ถ้าพูดอย่างเดียวไม่ได้เรียกว่าพูด ไม่มีข้อมูลไม่รู้ความหมาย ไม่รู้ระเบียบวิธีการเงินการคลังก็พูดไปเถอะครับ ทำไม่ได้สักอย่าง นี่ผมไม่ได้ว่าใครเลย ผมพูดให้เขาฟัง ว่าทุกคนต้องเรียนรู้ระบบงบประมาณว่าจะทำอย่างไรจะอยู่อย่างไร
อย่างไรก็ตามในวันนี้เป็นที่สังเกตว่าพลเอกประยุทธ์มีเสียงที่แหบแห้งเนื่องจากหาเสียงต่อเนื่อง มากกว่า 5 เวที รวมไปถึงมีการเปลี่ยนชุดจากที่แต่เดิมใส่กางเกงสีน้ำตาล มาเป็นกางเกงสแล็คสีดำ.-สำนักข่าวไทย