กรุงเทพฯ 11 พ.ค. – ตำรวจนำตัว “ตะวัน-แบม” กับพวก 9 คน ขอฝากขังต่อศาลอาญารัชดา พร้อมคัดค้านการประกันตัว เหตุวุ่นวายที่ สน.สำราญราษฏร์ ด้านทนายเตรียมคัดค้านการฝากขัง
พนักงานสอบสวนนำตัว น.ส.ทานตะวัน และ น.ส.อรวรรณ พร้อมพวกรวม 9 คน เพื่อขออำนาจศาลฝากขัง จากกรณีที่ไปทำกิจกรรม ที่ สน.สำราญราษฎร์ เรียกร้องให้กับ น.ส.หยก อายุ 15 ปี ถูกคุมขังในสถานพินิจบ้านปรานี ในคดีมาตรา 112 เมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) จนเป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ และมีทรัพย์สินของราชการหลายอย่างได้รับความเสียหาย
เบื้องต้น พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สําราญราษฎร์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 4 ข้อหากับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ได้แก่ ร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ, ทำลายทรัพย์สินราชการ, ทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป กระทำผิดโดยเป็นตัวการ และคัดค้านการประกันตัว
ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ทีมทนายได้เตรียมยื่นขอให้ศาลไต่สวนคัดค้านการฝากขังของพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการจับกุมโดยไม่เป็นธรรม และมีการใช้กำลังกับเยาวชน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการมาพบ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เพื่อสอบถามกรณีที่มีการแอบเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.โบราณสถาณ เพิ่มกับเยาวชนอายุ 15 ปี ภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี โดยไม่มีการแจ้งผู้ปกครอง และทนายความให้รับทราบตามสิทธิของผู้ถูกแจ้ง
ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามไปถามตำรวจที่เข้าไปแจ้งข้อหา แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ จึงไปสอบถามกับ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ซึ่ง ผกก.ที่อยู่ภายในโรงพักบอกว่าจะออกมาชี้แจง แต่ไม่มา ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุ พยายามจะเข้าไป แต่ถูกตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ปิดกั้น และนำไปสู่เหตุการณ์ชุลมุนเมื่อวานนี้
ทนายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า การที่ตำรวจมากีดกั้นนั้น ไม่ถูกต้อง และผิดกฎตำรวจ เพราะเป็นสิทธิที่ ประชาชนสามารถทำได้ในการเข้าไปพบผู้กำกับ หรือหากผู้กำกับไม่อยู่ก็สามารถที่จะเข้าพบรองผู้กำกับแทนได้ ซึ่งมองว่าการที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับกลุ่มเยาวชนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ส่วนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุทำลายทรัพย์สินของ สน. หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย