กทม. 8 พ.ค.-“ก้าวไกล” เรียกร้อง กกต. รับผิดชอบหลังพบผิดปกติล่วงหน้าหลายจุด กปน.ไม่จ่าหน้าซอง ผู้สมัครก้าวไกล ใบแนะนำตัวหาย เชื่อถ้า กกต. ทำงานโปร่งใสจะส่ง “ก้าวไกล” พุ่งที่หนึ่ง
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงกรณีประชาชนร้องเรียนการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนนี้ (7 พ.ค.) ตั้งข้อสังเกตว่ามีการทุจริตหรือไม่ ที่ผ่านมาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกลได้มีการโพสต์บนโซเชียลลมีเดียแล้ว ว่าพบความผิดปกติเรื่องใดบ้าง เช่น บางหน่วยไม่มีรูป หรือการส่งเอกสารที่ส่งไปตามบ้านบางเขตก็ไม่มีรูปหรือหมายเลขแนะนำผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล
นายพิจารณ์ กล่าวว่า จากการได้รับการร้องเรียนมาทางพรรค พบความผิดปกติหลายอย่าง ตนไม่แน่ใจว่าเป็นการทุจริตหรือไม่ จึงอยากแถลงและตั้งข้อสังเกต แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ 1.กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ไม่กรอกข้อมูล ตัวเลขหน้าซอง กรอกไม่ครบ กรอกข้อมูลผิด ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สิทธิอยู่ที่สุรินทร์อยู่เขต 4 แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นเขต 6 หากซองจดหมายถูกส่งไปที่ไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่จะส่งไปที่ไหน ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ก็คงตอบไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้สิทธิที่ปทุมธานี ไม่เขียนเลขรหัส 5 ตัว สงสัยว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อ
2.กกต.ไม่ติดรูปภาพและข้อมูลผู้สมัครหน้าหน่วย ซึ่งพบจำนวนมากตั้งแต่วันรับสมัคร โดยพรรคก้าวไกลเคยแจ้งเตือนแล้ว ล่าสุดพบที่เขตเลือกตั้งที่ 1-2 จังหวัดน่าน พรรคก้าวไกลหมายเลข 6 แต่กลับไม่มีใบแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.
3.มีการลงทะเบียนล่วงหน้ามากผิดปกติ ที่จังหวัดขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ และจังหวัดอื่นๆ ซึ่งผู้มาใช้สิทธิจำนวนหนึ่งไม่ได้มีธุระในวันเลือกตั้ง เช่น กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีความจำเป็นต้องเลือกตั้งล่วงหน้า และเหตุใดต้องใช้รถขนคนจำนวนมาก เป็นการซื้อเสียงเพื่อการเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ เราอยากเห็นการทำงานเชิงรุกของ กกต. นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียน แต่มีชื่อเลือกตั้งล่วงหน้า
4.มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า แต่ไม่มีชื่อในวันเลือกตั้ง
“ทั้งหมดนี้อยากให้ กกต.ออกมาชี้แจง ว่ามีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร แก้เมื่อไหร่ จะมีหนทางอย่างไร ใครต้องรับผิดชอบ คิดว่าหน้าที่ของ กกต. คือรับผิดรับชอบ ให้โปร่งใส ยุติธรรม” นายพิจารณ์ กล่าว
นายพิจารณ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล เดินทางมาถึงวันนี้ ได้รับความนิยมสูงขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ จากนโยบาย ความชัดเจน ตรงไปตรงมา และความเชื่อมั่น ในตัวนายพิธา เราไม่ได้แข่งกับใคร เราแข่งกับ กกต.ว่าจะทำให้การเลือกตั้งอย่างไร ขอให้ทำงานอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม ให้คะแนนออกมาถูกต้อง หากทำได้ตนมั่นใจว่าจะส่งผลให้พรรคก้าวไกลมีคะแนนเป็นอันดับ 1
เมื่อถามว่า เปรียบเทียบกับปี 2562 ที่เกิดบัตรเขย่ง มองว่ามีปัญหามากกว่าน้อยกว่าอย่างไร นายพิจารณ์ กล่าวว่า แค่ในส่วนของการเลือกตั้งล่วงหน้า ต้องบอกว่ามีปัญหาจริงๆ เราไม่ได้พบเห็นปัญหาแบบนี้เมื่อปี 2562 เราไม่ได้พบเห็นผู้มาใช้สิทธิมากกว่าปกติในบางจังหวัด หากเทียบกันปี 2562 ไม่มีความผิดปกติลักษณะนี้
ส่วนที่เมื่อเกิดปัญหามาก จะไปถึงการทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายพิจารณ์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้ความเห็นอย่างระมัดระวัง ไม่แน่ใจว่ามีความพยายามของบุคคลบางกลุ่มให้นำไปสู่การโมฆะหรือไม่ เพื่อนำไปสู่การยืดระยะเวลาของการเลือกตั้งออกไป หากเกิดขึ้นจริงพี่น้องประชาชนก็จะเกิดความสงสัยและตั้งคำถามถึงผู้มีอำนาจและรัฐบาลรักษาการ ว่ากำลังทำอะไรอยู่ กำลังพยายามดึงอำนาจของพี่น้องประชาชนออกไปหรือไม่
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับ กกต.หรือไม่ นายพิจารณ์ กล่าวว่า ส่วนที่แถลงไปเป็นส่วนหนึ่ง ยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วไปด้วย มีหนังสือผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่งไปตามบ้าน โดยที่เจ้าบ้านไม่รู้จักว่าเป็นใคร มีบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วก็มี ซึ่งทางพรรคก้าวไกลจะขอตรวจสอบเอกสารและปรึกษาทีมกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนที่ กกต. ออกมาชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาดของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โดยมีการตั้งผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบแล้ว ซึ่งแม้จะไม่กรอกรหัส 5 ตัว สามารถส่งไปยังเขตเลือกตั้งได้ มองอย่างไร นายพิจารณ์ กล่าวว่า รูปแบบที่กรอกในหน้าซองบัตรเลือกตั้งมีหลายรูปแบบ ซึ่งจะแก้ไขอย่างไร ขอตั้งคำถามว่าจะทราบได้อย่างไรว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลือกเขตไหน หาก กกต.พูดแบบนี้ ไปรษณีย์จะตอบอย่างไร มองว่าเป็นกระบวนการที่เป็นภาระของไปรษณีย์ไทยอีกขั้นหนึ่ง
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) หลายหน่วยเลือกตั้งต้องรองรับประชาชนจำนวนมาก การทำงานโดยใช้คนอาจจะมีความผิดพลาดที่เกิดขึ้น หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร นายพิจารณ์ กล่าวว่า เราสามารถทำแบบดั้งเดิมและนำเทคโนโลยีมาใช้ได้ อย่างไรก็ตามกรณีนี้ กกต.มีเวลาอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง คำถามคืออบรมมากพอหรือไม่ ซึ่ง กกต. มีงบไม่ใช่น้อย แต่เกิดประสิทธิภาพตามที่ของบหรือไม่.-สำนักข่าวไทย