ทำเนียบรัฐบาล 5 มิ.ย.-ประชุมมินิคาร์บิเนตเห็นชอบหลักการเพิ่มงบหนุนโครงการคลินิคหมอครอบครัวเขตเมือง พร้อมออกระเบียบเพิ่มค่าตอบแทนให้แพทย์ 3 สาขาขาดแคลน
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์(มินิคาร์บิเนต) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขที่จะขับเคลื่อนงานให้เกิดผลในช่วง 1 ปี 4 เดือนที่เหลือ ประกอบด้วย การออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ เพื่อส่งเสริมการทำงานแบบประชารัฐ
“การสร้างแรงจูงใจแพทย์ 3 สาขา คือ เวชศาสตร์ครอบครัว ระบาดวิทยา และเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โดยออกระเบียบเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขและความก้าวหน้าด้านวิชาชีพ โดยเฉพาะแพทย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าผลิต 6,000 คน ขณะที่เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ตั้งเป้าผลิต 1,000 ตำแหน่ง และสร้างการบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาเขตสุขภาพพิเศษตามแนวชายแดน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการการจัดสร้างคลินิคครอบครัวเขตเมือง และงบประมาณสนับสนุน 150 บาทต่อคน เพื่อขับเคลื่อนให้ประชาชนเข้าถึงบริการของคลินิคหมอครอบครัวได้อย่างทั่วถึงและมีงบประมาณอย่างเพียงพอ ซึ่งประมาณการว่าหากดำเนินการจนครบ 10 ปี จะใช้เงินลงทุนดูแลสุขภาพประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่จะสามารถประหยัดงบประมาณด้านสาธารณสุข ได้ปีละ 50,000 ล้านบาท เพราะเป็นการดูแลพื้นฐานด้านสุขภาพ ทั้งป้องกันและดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นได้ โดยเป็นการคัดกรองก่อนส่งไปยังโรงพยาบาลใหญ่ อีกทั้งลดการแออัดของผู้ป่วยในแต่ละวันได้ร้อยละ 60 และลดรายจ่ายของประชาชนในการเดินทางไปโรงพยาบาล
“จากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะนำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพ กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม ปรับวิธีการจ่ายเงิน เพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนคลินิคหมดครอบครัว โดยเฉพาะในเขตเมืองก่อนที่จะขยายตัวไปยังอำเภอและชุมชนต่อไป นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานตลอด 3 ปีของกระทรวงสาธารณสุข อาทิ คลินิคหมอครอบครัว การบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินมีสิทธิ์ทุกที่ การดูแลผู้ป่วยโรคไตเสื่อม การพัฒนางานสมุนไพร การยุติการถ่ายทอดเชื่อเอชไอวีและซิฟิลิส จากแม่สู่ลูก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว.-สำนักข่าวไทย