ตาก 17 เม.ย. – คนร้ายควงปืนสั้นและมีดดาบยาว บุกรีสอร์ตกลางเมืองแม่สอด จ.ตาก หวังเจรจาขอคืนดีกับอดีตแฟนสาว แต่ไม่สำเร็จ ก่อนใช้ปืนจ่อยิงศีรษะ รปภ. เสียชีวิตคาที่ เพราะเข้าใจผิดว่า รปภ.โทรแจ้งตำรวจ
เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (17 เม.ย.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครแม่สอด
ที่เกิดเหตุเป็นซอยตัน เปิดเป็นห้องเช่ารายเดือนและรายวัน ตั้งอยู่กลางเมืองแม่สอด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบลานจอดรถบริเวณทางเข้ารีสอร์ต พบศพนายเอมิน แต๊ะ อายุ 41 ปี สัญชาติเมียนมา พนักงานรับรถและเป็น รปภ.ประจำรีสอร์ต สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีเทา และสวมรองเท้าแตะสีดำ บริเวณขมับซ้ายถูกจ่อยิงระยะประชิด จำนวน 1 นัด เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ห่างออกไป 10 เมตร พบเศษหมอนรองกระสุนแบบปืนลูกซองตกอยู่
จากการสอบสวนนายบาส สัญชาติเมียนมา อายุ 37 ปี พนักงานต้อนรับลูกค้าและ รปภ.ช่วงกลางคืน ให้การว่า ช่วงใกล้รุ่งสาง มีชายวัยกลางคน 2 คน ซึ่งเป็นคนร้าย เดินเท้าผ่านป่าละเมาะเข้ามาภายในรีสอร์ต โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งชายทั้ง 2 คน มีอาการคล้ายคนมึนเมา และแต่งกายอำพรางตัวมิดชิด ตนเองจึงทักทาย แต่ชายทั้งสองชักอาวุธปืนพกสั้นและมีดดาบยาว แสดงตัวว่ามาขอพบ น.ส.แป้ง อายุ 19 ปี ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นอดีตแฟนสาวของหนึ่งในคนร้าย จากนั้น 2 คนร้ายได้ตะโกนโวยวายดังไปทั่วรีสอร์ต
ต่อมานายเอมิน แต๊ะ ผู้ตาย ได้ยินเสียงคนตะโกนโวยวาย จึงเดินออกมาตรวจสอบ และโทรศัพท์หาเพื่อนร่วมงานอีกคนให้มาช่วยระงับเหตุ ทำให้คนร้ายคิดว่าผู้ตายโทรแจ้งตำรวจ จากนั้นหนึ่งในคนร้ายเกิดความไม่พอใจแล้วตะโกนว่า “มึงโทรหาตำรวจหรือ” ก่อนจะใช้อาวุธปืนที่คาดว่าเป็นปืนลูกซองสั้น จ่อยิงขมับผู้ตายจนล้มลงกับพื้นเสียชีวิตทันที จากนั้น 2 คนร้ายก็รีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
ด้าน น.ส.แป้ง ที่คนร้ายเอ่ยชื่อ เล่าเหตุการณ์ด้วยอาการตัวสั่นว่า ตนเป็นอดีตแฟนสาวของมือปืนที่ชื่อ นายเปี๊ยก เพิ่งคบหาดูใจกันได้เพียงเดือนเศษ นายเปี๊ยก มีนิสัยขี้หึงและอารมณ์รุนแรง ตนจึงขอเลิกราและแอบมาเช่าห้องที่รีสอร์ตเกิดเหตุ จนนายเปี๊ยกทราบ จึงบุกมาขอเจรจา แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนถูกยิง โดยไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เลย ซึ่งตนเองรู้สึกกลัวมาก
ล่าสุดตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด เร่งสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม พร้อมจัดชุดไล่ล่า 2 คนร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจ และต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตามตัวคนร้าย เนื่องจากคนร้ายทั้งสองมีอาวุธติดตัว. – สำนักข่าวไทย