กทม. 15 เม.ย.- “องอาจ-มาดามเดียร์-ดร.เอ้” เดินสวนธนบุรีรมย์ ขอเสียงสนับสนุน “ชยิน พึ่งสาย” ผู้สมัคร ส.ส.เขตราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ มั่นใจคว้าเก้าอี้ฝั่งธนฯ ได้แน่ หลังมีทีมบ้านใหญ่เสริมทัพ เตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ฝั่งธนฯ 23 เม.ย.นี้
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. และ นายชยิน พึ่งสาย ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตราษฎร์บูรณะ – ทุ่งครุ หมายเลข 7 ลงพื้นที่สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ประชาชนในพื้นที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งสะท้อนปัญหา ขอถ่ายรูปเซลฟี่ รวมไปถึงประชาชนได้ชวนคณะทำกิจกรรม อย่างเช่น เตะตะกร้อขนไก่
โดย นายชยิน ระบุว่า จากการลงพื้นที่ พบว่าในพื้นที่ตนเองนั้น แฟนคลับของพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเหนียวแน่น ซึ่งตนมั่นใจในพื้นที่ 100%
ด้าน นายองอาจ ระบุว่าในอดีตเราเคยมี ส.ส. ทุกเขตในพื้นที่ฝั่งธนฯ ยกเว้นเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ที่ไม่มี ส.ส.ในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นก็พยายามทำงานหนักอยู่ทุกพื้นที่ เนื่องจากมีสาขาพรรคและตัวแทนพรรค รวมไปถึงส.ก.ในพื้นที่ จึงเชื่อมั่นได้ว่าเราทำงานคลุกคลีกับประชาชน ประชาชนจะให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ได้กลับมาทำงานในพื้นที่กรุงเทพฯได้มากขึ้น
นายองอาจ ยังระบุว่าถึง บ้านใหญ่ม่วงศิริ ว่าอีกหนึ่งทีมงานในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ในการชิงตำแหน่งถึง 3 เขต โดยขณะนี้เขตเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลงไปมาค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นจึงพยายามรวบรวม ผู้สมัคร ส.ส. ที่มีเครือข่ายเดียวกันมาลงสมัคร เพื่อเป็นความสะดวกในการทำงาน พร้อมกับย้ำว่า เชื่อมั่นได้ว่าแม้ว่าจะมีพรรคการเมืองหลายพรรคลงรับสมัครการเลือกตั้ง แต่การที่พรรคทำงานหนักไปอย่างต่อเนื่องก็น่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชน
ขณะที่ น.ส.วทันยา ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเวทีปราศรัยใหญ่พื้นที่กทม.ฝั่งธนฯ ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีกำหนดการในการปราศรัยใหญ่อีกครั้งในพื้นที่ฝั่งธนฯ วันที่ 23 เมษายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งขณะนี้ก็มีความพร้อม 100% ส่วนหมัดเด็ดจะเป็นอะไรนั้น ขอให้ประชาชนรอฟังบนเวทีในวันนั้น และจะมีเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน
ส่วน นายสุชัชวีร์ ได้ระบุถึง บรรยากาศการลงพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ผ่านมา ว่า จากการได้พูดคุยกับประชาชน มีความชื่นชอบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์มาก โดยเฉพาะ นโยบายอินเตอร์เน็ตฟรี ที่จะทำให้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ และลูกหลานเปลี่ยนไป รวมไปถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองPM 2.5 ซึ่งเป็นนโยบายเพื่อคนกรุงเทพฯ จริงๆ .-สำนักข่าวไทย