กรุงเทพฯ12 เม.ย. – แบงก์ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้ ยืนยันดูแลทุกกลุ่มลูกค้า พร้อมแจ้งปิดบริการช่วงสงกรานต์
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.75% มีผลทันทีในวันที่ 29 มีนาคม 2566 เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่คาดว่าจะปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงกลางปี 2566 ธนาคารได้พิจารณาอย่างรอบคอบถึงการส่งผ่านต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าผู้ฝากเงิน และลูกค้าสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ยังอ่อนไหวต่อภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น และลูกค้าเอสเอ็มอี ให้สามารถปรับตัวได้อย่างราบรื่นและรับมือความท้าทายทางเศรษฐกิจ
ธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.35% ต่อปี เพื่อส่งเสริมการออมให้ผู้ฝากเงินมีรายได้เพิ่มขึ้น ในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี โดยปรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี เป็น 6.60% ต่อปี ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.20% ต่อปี เป็น 7.07% ต่อปี และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) 0.25% ต่อปี เป็น 7.12%ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารตอบสนองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.50% เป็น 1.75% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายในประเทศ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภท สูงสุด 0.35% เพื่อสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ฝากเงินผ่านการสนับสนุนการออมเงินและเพิ่มกำลังซื้อให้กับลูกค้าของธนาคารทุกกลุ่มในภาวะที่ค่าครองชีพปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับเพิ่ม 0.25% จาก 6.57% เป็น 6.82% อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับเพิ่ม 0.25% จาก 6.89% เป็น 7.14% อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับเพิ่ม 0.25% จาก 6.60% เป็น 6.85% โดยให้มีผลในวันที่ 13 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
ธนาคารกรุงเทพ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2566 ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เพิ่มขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้น 0.05-0.30% เงินฝากสะสมทรัพย์ เป็น 0.55% ต่อปี เงินฝากประจำ 3 เดือน เป็น 0.75% ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน เป็น 0.85% ต่อปี และเงินฝากประจำ 12 เดือน เป็น 1.15% ต่อปี อีกทั้งได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำพิเศษ 8 เดือน เป็น 1.25% ต่อปี และเงินฝากประจำพิเศษ 14 เดือน เป็น 1.45% ต่อปี
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ (MRR) หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) ธนาคารปรับขึ้น 0.05% เป็น 6.85% ต่อปี ส่วนเอ็มแอลอาร์ (MLR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) และเอ็มโออาร์ (MOR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) ปรับขึ้น 0.20% เป็น 6.65% ต่อปี และ 7.10% ต่อปี ตามลำดับ
นอกจากนี้ธนาคารได้แจ้งวันเปิด-ปิด บริการสาขาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 .-สำนักข่าวไทย