กรุงเทพฯ 17 เม.ย. – คปภ.เร่งเอาผิด คดีกลุ่มบุคคลฉ้อฉลประกันภัย จัดฉากฆ่าหวังเอาเงินประกันภัย 14 ล้านบาท จากกรมธรรม์ประกันภัย 28 ฉบับ
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ เป็นประธานในการประชุม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการฉ้อฉลประกันภัย กลุ่มบุคคลร่วมกันจัดฉากอุบัติเหตุทางรถยนต์และทำให้มีผู้เสียชีวิต มุ่งหวังเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย ในการนี้บุคคลดังกล่าวได้สร้างสถานการณ์ให้ผู้ตาย ที่โดยสารบนท้ายรถกระบะคันหมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร พลัดตกจากท้ายรถคันดังกล่าว เป็นเหตุให้ถูกรถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ถูกลากจูงโดยรถกระบะคันหมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ที่ขับตามมา เหยียบทับร่างผู้ตายจนถึงแก่ความตาย
จากการตรวจสอบพบว่า รถกระบะคันหมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ 12 ฉบับ ภาคสมัครใจ 4 ฉบับ รถกระบะคันหมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ และคันหมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับคันละ 5 ฉบับ ภาคสมัครใจคันละ 1 ฉบับ โดยมีบริษัทผู้รับประกันภัยถึง 15 บริษัท มีกรมธรรม์ประกันภัยรวมทั้งสิ้น 28 ฉบับ ค่าสินไหมทดแทนรวมกว่า 14 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมธรรม์ประกันภัยส่วนใหญ่นั้น ได้จัดทำขึ้นเพียงแค่ 10 วัน ก่อนเกิดเหตุ และอีก 2 กรมธรรม์ จัดทำขึ้นในวันเกิดเหตุ อีกทั้งในวันที่เหตุเกิดขึ้นนั้น ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดแจ้งเหตุให้บริษัทประกันภัยทั้ง 15 แห่ง ทราบ และไม่มีรายงานแจ้งการออกเหตุของหน่วยกู้ชีพ
นอกจากนี้ สภาพบาดแผลของผู้ตายไม่สอดคล้องกับลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อฉลประกันภัยเกิดขึ้น โดยหลักการ บริษัทประกันภัยจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยอย่างเคร่งครัด หากบริษัทประกันภัยไม่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ จะเข้าข่ายเป็นการประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน อันเป็นความผิดทางอาญา การกล่าวอ้างว่ากรณีใดเป็นการฉ้อฉลประกันภัย จะต้องมีหลักฐานประกอบการปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย กระทำการโดยทุจริตหรือการฉ้อฉลประกันภัย บริษัทประกันภัยย่อมมีสิทธิปฏิเสธการชดใช้โดยไม่ถือเป็นความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
โดยผู้กระทำการดังกล่าวอาจจะต้องรับผิดทางอาญาในความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัยอีกด้วย จึงได้สั่งการให้สายกฎหมายและคดี เดินหน้าแจ้งความร้องทุกข์ผู้กระทำความผิดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดกับพวกรวม 5 คน ในข้อหากระทำการเรียกร้องผลประโยชน์ตาม กรมธรรม์ประกันภัยโดยทุจริต ล่าสุด ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อหวังเงินประกัน ซึ่งเป็นข้อหาหลัก สำหรับความคืบหน้าในคดี .-515- สำนักข่าวไทย
