สถานีขนส่งหมอชิต 12 เม.ย.-“คุณหญิงสุดารัตน์” ส่งประชาชนเดินทางกลับบ้าน ขอให้เดินทางปลอดภัยและใช้เวลากับครอบครัวในช่วงสงกรานต์ มั่นใจชี้แจงนโยบายใช้จ่ายเงินได้ ยันไม่แจกเงิน แต่เป็นการให้ตามสิทธิและจ้างงาน หมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและมั่นคง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.ณิชชา บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 หลักสี่-จตุจักร เดินทางมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) พบปะประชาชน และส่งประชาชนกลับบ้าน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้สอบถามถึงการเดินทางของประชาชน พร้อมถ่ายรูปกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้มาส่งประชาชนเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ และใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและคนที่รักในช่วงสงกรานต์อย่างมีความสุข ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย อย่าประมาท และให้ฉลองในช่วงเทศกาลด้วยความระมัดระวัง ซึ่งการรณรงค์เรื่องการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเป็นถนนสายหลัก แต่การสูญเสียที่เกิดขึ้นมากที่สุด เกิดในถนนสายรอง จึงอยากให้ตั้งด่านตรวจในถนนสายรองเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งอยากให้รัฐบาลเข้มงวดเรื่องของการจำหน่ายสุรา และขอความร่วมมือจากภาคเอกชน
“มีความห่วงใย 2 เรื่อง คือ เรื่องอุบัติเหตุในการเดินทาง และเรื่องตั๋วเดินทางเต็มและมีตั๋วผี ที่โดนเอกชนโก่งราคา จึงอยากให้ทางกระทรวงคมนาคม เข้ามาดูอย่างจริงจัง ซึ่งบางคนไม่มีโอกาสที่จะจองตั๋วล่วงหน้า หรือไม่สะดวกจองทางออนไลน์ ทำให้ไม่มีตั๋วเดินทางกลับบ้าน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ปีนี้การเดินทางน่าจะคึกคักมากขึ้น เพราะประชาชนสามารถเดินทางได้ ไม่เหมือนปีที่ผ่านมาที่ติดสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้น การตั้งรับของหน่วยงานรัฐในแต่ละพื้นที่ถือว่ามีความสำคัญ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ให้พรรคการเมืองชี้แจงนโยบายหาเสียงที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงิน โดยยืนยันว่าไม่มีความกังวล มั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้หมด เพราะไม่ได้ใช้งบประมาณจำนวนมาก เนื่องจากนโยบายพรรคไทยสร้างไทย ไม่เน้นการแจกเงิน แต่เน้นการจ้างงานและให้ได้รับประโยชน์ตามสิทธิที่ควรได้รับ และทุกนโยบายมีผลตอบแทนกลับมาทางด้านเศรษฐกิจจำนวนมาก เช่น นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท ที่จะต้องมีให้กับคนไทยที่ทุกคนควรจะได้รับเมื่อเกษียณอายุ เพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ เพราะในอนาคตประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ และลดภาระลูกหลาน ซึ่งถือเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนและมั่นคง เพราะเงิน 3,000 บาท จะทำให้ผู้สูงอายุเข้าไปมีกำลังซื้อภายในชุมชน
“เราไม่ได้แจกผ่านบัตร เราโอนเงินสดเข้าบัญชีผู้สูงอายุ เบิกมาใช้อะไรก็ได้ ใช้ใกล้บ้าน ซึ่งผู้สูงอายุก็จะใช้ทั้งหมด จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งตามทฤษฎีของแบงก์ชาติ หมุนเวียน 3 รอบ เงินเราใช้ 3 แสนล้านบาท/ปี เท่ากับเพิ่มกำลังซื้อใหม่ ปีละ 1.2 ล้านล้านบาท ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก นี่คือนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่ได้ให้ฟรี แต่ให้พร้อมหน้าที่ เป็นการให้บำนาญ 3,000 บาท ที่คนได้รับไปต้องไปสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ถ้ารับไปแล้วไปเล่นไพ่ กินเหล้า ตรวจเจอจะต้องถูกตัดเงิน เราต้องให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพื่อลดค่ารักษาพยาบาลของรัฐและของครอบครัว ถ้าเปรียบเทียบกับนโยบายที่แจกเงินเฉยๆ ของหลายพรรค ถึงแม้จะแจกน้อยหรือแจกมาก 600 / 700 / 1,000 หรือ 10,000 บาท และแจกครั้งเดียว แต่ของพรรคจะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและแก้อย่างยั่งยืน ทำให้เศรษฐกิจฐานรากฟื้นตัวอย่างมั่นคง นี่คือสิ่งที่ยืนยันว่าเราคิดอย่างครบวงจร” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ส่วนในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งจะมีกลยุทธ์อะไรพิเศษหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยย้ำว่า มาเพื่อสร้างชัยชนะให้กับประชาชน และให้ประชาชนออกจากความทุกข์ที่มีมาจากการรัฐประหาร การแย่งอำนาจกันของสองขั้ว และการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้ายของสองขั้วที่แพ้ไม่ได้ ดังนั้น เมื่อจบการเลือกตั้ง ไม่อยากพาประเทศไปเสี่ยงกับสงครามความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม และถ้าแก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ ก็ไม่มีทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้
“พรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคใหม่ แต่หัวใจเดิม ยืนยันไม่เอาเผด็จการอย่างเด็ดขาด และจะไม่สร้างเงื่อนไขที่ทำให้ประเทศไปสู่วิกฤติ ขอให้ประชาชนคิดนอกกรอบว่า อยากจะกลับไปมีชีวิตเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ และถ้าไม่อยากเป็นเช่นนั้นก็ต้องไม่เลือกขั้วเดิม”
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยมีประสบการณ์ในการทำงานบริหารประเทศมายาวนาน และรู้กลไกว่าจะผลักดันนโยบายอย่างไร ยืนยันจะปราบคอร์รัปชันอย่างจริงจัง ให้คนที่โกง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ มาติดคุกให้ได้ จะทำให้ประชาชนมีเศรษฐกิจที่ดี ดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ให้มีศักดิ์ศรีและมีชีวิตที่ดี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย