นายกฯขอเอกชนอย่ากังวลกับเข้ามาบริหารของรัฐบาลนี้

ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ 31 พ.ค.-นายกฯ แนะภาคธุรกิจนำหลักหนุน 3 เสาหลักด้านสิทธิมนุษยชนในการประกอบธุรกิจ ขออย่ากังวลกับการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลนี้ 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวเปิดการสัมมนาและปาฐกถานำเรื่องหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติกับการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประกอบธุรกิจโดยเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยชน เป็นเรื่องที่ถูกต้องทางศีลธรรม และเป็นโอกาสนำประเทศสู่ “ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพราะธุรกิจคือพลังขับเคลื่อนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสิทธิมนุษยชนคือการดูแลคนทุกคนให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีความปลอดภัยในชีวิต มีมาตรฐานการครองชีพที่เหมาะสม มีโอกาสเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการของรัฐ และได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรม 

“ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนคือการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการสร้างความเป็นธรรมทางสังคม ขออย่ากังวลกับรัฐบาลนี้ที่เข้ามาบริหารประเทศ เพราะผมมีความมุ่งมั่นที่จะยุติความขัดแย้งและวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่สหประชาชาติให้การรับรองหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะเป็นครั้งแรกที่ประชาคมโลกมีความพยายามสนับสนุนให้การกำหนดความรับผิดชอบของธุรกิจในการเคารพสิทธิมนุษยชนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ และรัฐบาลนี้ยืนยันมีความมุ่งมั่นที่ผลักดันให้ประเทศไทยดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการเคารพในสิทธิมนุษยชน โดยยึดหลักการของเสาหลัก 3 ประการ คือ เสาหลักด้านการคุ้มครอง  ด้านการเคารพ และด้านการเยียวยา  


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐด้านการคุ้มครอง ไทยดำเนินการแล้วในหลายส่วน เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงานเพื่อให้คนทำงานได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ไม่บังคับใช้แรงงาน ได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม กฎหมายที่ให้หลักประกันทางสังคม ซึ่งรัฐบาลนี้แก้ไขแล้ว หลายเรื่องประสบความสำเร็จ จึงถือผลงานของรัฐบาลนี้ตลอด 3 ปีที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง การบังคับใช้กฎหมายยังมีอยู่บ้าง จึงขออย่าเอาความขัดแย้งมาแก้ปัญหา แต่ต้องมองจุดที่เป็นปัญหาให้ตรงกันและเดินไปข้างหน้าร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ความปรองดอง การปฎิรูปประเทศ ต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน สิทธิมนุษยชนและทุกหน่วยงาน ที่จะต้องจัดทำแผนให้ชัดเจนว่าหน่วยงานใดต้องดำเนินการ 

“การสมยอมระหว่างผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่จะต้องไม่เกิดขึ้น ทุกคนต้องช่วยกันและช่วยรัฐบาล เพราะบางเรื่องรัฐบาลดูแลไม่ทั่วถึง แต่ขอยืนยันรัฐบาลนี้ให้ความสนใจแก้ไขปัญหาทั้งที่ได้รับจากต่างประเทศ และในประเทศ เช่นการแก้ไขเรื่องการค้ามนุษย์   การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว การแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ที่กำลังแก้ปัญหาอยู่ แต่ต้องใช้เวลา ที่สำคัญรัฐบาลนี้ตั้งศาลคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เพื่อพิจารณาคดีด้านนี้ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

นายกรัฐมนตรี มอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติด้านสิทธิมนุษยชนแก่กระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะเป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลัก ว่า แผนที่จะจัดทำขึ้นควรมุ่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ควรเป็นมาตรการที่ตอบสนองปัญหาได้ตรงจุด สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกได้ในวงกว้าง เป็นไปอย่างโปร่งใสและเปิดให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม อันเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำแผนไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างแท้จริง ส่วนภาคธุรกิจควรหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่จะละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งโดยตรงและทางอ้อม นอกจากการดูแลสวัสดิการของแรงงานแล้ว ภาคธุรกิจพึงให้ความสำคัญกับชุมชนในพื้นที่ ไม่สร้างผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมในชุมชน                          

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามปฏิญญาความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคธุรกิจ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)  เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งคุ้มครองปัจเจกบุคคลและชุมชนจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากบุคคลที่สามด้วย..- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

หนาวจัด

อ.น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวจัด -3 องศาฯ

อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หนาวจัด ติดลบ 3 องศาฯ ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเกาะตามพื้นและหลังคารถ ส่วนแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวโคราช แจกเสื้อกันหนาวชาวบ้านฟรี หลังอุณหภูมิในพื้นที่แตะ 10 องศาฯ

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท พบพฤติการณ์คล้ายแก๊งหลอก “ชาล็อต ออสติน”

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพกับดาราดัง ใช้ กม.สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพประวัติศาสตร์กับดาราดัง ประกาศยินดีไทยใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผลักดัน ลั่นวันนี้สำเร็จแล้ว นี่คือความภูมิใจของคนไทย

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา