กรุงเทพฯ 5 เม.ย.- GISTDA เผยจุดความร้อนในไทยวานนี้เพิ่มขึ้น 2,978 จุด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ โดยจังหวัดน่านพบมากถึง359 จุด ขณะที่ยังคงพบจำนวนจุดความร้อนประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดหมอกควันข้ามแดน
GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 4 เมษายน 2566 ไทยพบจุดความร้อน 2,978 จุด แต่ที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ ลาว 8,640 จุด พม่า 5,292 จุด เวียดนาม 615 จุด กัมพูชา 399 และมาเลเซีย 9 จุด
สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ยังคงพบในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุดถึง 1,532 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 1,018 จุด, พื้นที่เกษตร 212 จุด, พื้นที่เขต ส.ป.ก. 107 จุด พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 94 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 15 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ น่าน 359 จุด เชียงใหม่ 350 จุด และแม่ฮ่องสอน 263 จุด
ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 วันนี้ ภาคเหนือยังคงน่าเป็นห่วงมาก เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” แบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมาพบหลายจังหวัดมีค่า PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง และมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีค่า PM 2.5 สูงสุดกว่า 350 ไมโครกรัม ตามด้วย เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน แพร่ บึงกาฬ และหนองคาย ดังนั้นประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัยและงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ในขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบค่าคุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th หรือ ติดตามข้อมูลจาก https://fire.gistda.or.th/dashboard.html และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเตรียมหารือกับประเทศเพื่อนบ้านในนามรัฐบาลไทยในปลายสัปดาห์นี้เพื่อแก้ปัญหาจุดความร้อนและหมอกควันข้ามแดนตามกรอบความร่วมมืออาเซียน.-สำนักข่าวไทย