นนทบุรี 31 มี.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในเผยผลหารือผู้ประกอบการกลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว หลังมีกระแสเตรียมขอปรับราคาสินค้าขึ้นในช่วงนี้ โดยหลังหารือผู้ประกอบการยอมตรึงราคาสินค้าช่วยค่าครองชีพประชาชนไปก่อน โดยยังไม่มีการปรับขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าโดยรวมอยู่ในช่วงขาลง และเตรียมแผนรองรับในช่วงผลไม้มาก
ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ประชุมหารือกับผู้ประกอบการ 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ กาแฟ นมถั่วเหลือง น้ำหวาน เช่น เขาช่อง เบอร์ดี้ เบลนดี้ เนสกาแฟ แลคตาซอย ไวตามิ้ลค์ โอวัลติน ไมโล เนสวีต้า และเฮลซ์บลูบอย และ (2) กลุ่มขนมขบเคี้ยว เช่น ยูโร่ เอลเซ่ ปีโป้ โอโจ้ ปักกิ่ง กัสเซ็น และนิสชินคาชิ ในการประชุมหารือครั้งนี้ได้ติดตามสถานการณ์ทางการค้า และผู้ประกอบการมีความตั้งใจที่จะร่วมกันกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคในภาคการท่องเที่ยวหรือในภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน GDP ของประเทศให้เติบโตขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์ต่างๆ ที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการทั้งสองกลุ่มนี้ได้ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการตรึงราคาสินค้า และจะจัดให้มีโปรโมชั่นลดราคาสินค้าผ่านทางช่องทางการจำหน่ายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนในเรื่องช่องทางการจำหน่ายให้ประชาชนได้ซื้อสินค้า
ในราคาถูกด้วย เช่น การนำสินค้าไปจำหน่ายในร้านธงฟ้า ซึ่งเป็นร้านค้าเครือข่ายของกรมการค้าภายใน และจำหน่ายในงานธงฟ้าในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และเพื่อรักษาระดับค่าครองชีพของประชาชน ในขณะเดียวกันก็เป็นการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้
ส่วนสถานการณ์ราคาสินค้าอาหารสด ล่าสุด ณ วันที่ 30 มีนาคม 2566 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งราคาเนื้อหมู เฉลี่ยกิโลกรัมละ 152 บาท ลดลง 7% / เนื้อไก่ ส่วนสะโพก เฉลี่ยกิโลกรัมละ 78 บาท ลดลง 2% /และอกไก่ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 78 บาท ลดลง 3% ขณะที่ ไข่ไก่ เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 3.78 บาท ลดลง 2% ตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผลผลิตผลไม้ มะม่วง โดยจะเริ่มต้นฤดูกาลที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดก่อนชนิดอื่น ประมาณต้นเดือนเมษายนนี้ แม้ปีนี้ คาดการณ์ว่าปริมาณจะลดลงที่ 4% หรือประมาณ 1 .34 ล้านตัน แต่ทำตลาดล้วงหน้าไว้รองรับแล้ว เพื่อไม่ให้ปริมาณล้นตลาดราคาตกต่ำ เพราะผลผลิตจะออกกระจุกตัวพร้อมๆกัน ในเบื้องต้น ผู้รับซื้อ 12 รายเข้าไปรับซื้อมะม่วงล่วงหน้าไว้แล้วในราคานำตลาด กว่า 18,000 ตัน จากพื้นที่พิษณุโลก และพิจิตร จึงมั่นใจว่าปีนี้มะม่วงจะไม่มีปัญหาทั้งปริมาณและราคา ซึ่งขณะนี้ ราคาดี เช่น ฟ้าลั่น กิโลกรัมละ 20 บาท และน้ำดอกไม้ สูงถึงกิโลกรัม 40 บาท แต่เพราะเป็นในช่วงต้นฤดูกาลที่ผลผลิตยังน้อย
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ส่วนเหตุพายุฤดูร้อนในพื้นที่ภาคตะวันออก กระทบชาวสวนผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน ได้รับความเสียหายนั้น จากการตรวจสอบ มีเกษตรกร 3 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบ โดยจันทบุรี ผลผลิตทุเรียน เสียหายเบื้องต้น 1,400 ตัน ฉะเชิงเทรา ประมาณ 100 ตัน และตราด อีกเกือบ 100 ตัน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเกษตรจังหวัด อยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อดูแลเยียวยา ขณะเดียวกัน ต้องควบคุมคุณภาพ ป้องกันไม่ให้ทุเรียนอ่อน เข้าสู่ตลาดได้.-สำนักข่าวไทย