กรุงเทพฯ 27 มี.ค. – กปน.ยืนยันงานประมูลงานโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ เป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ แจงข้อเท็จจริงของผู้ร้องถูกตีตก เพราะอุปกรณ์ที่ยื่นข้อเสนอฯ ต่ำกว่าเกณฑ์ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขและวัตถุประสงค์การใช้งาน
นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยถึงกรณีที่เอกชนยื่นอุทธรณ์และขอให้ศาลปกครองขอทุเลาให้มีการบังคับการประกาศผู้ชนะไปก่อน จากการประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้อง สัญญา GE-MS5/6-9 นั้น คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาได้ปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายอย่างถูกต้อง ครบตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยการพิจารณานั้น จะพิจารณาข้อเสนอทางด้านเทคนิคและอุปกรณ์ที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้เสนอเข้ามาต้องมีความถูกต้องครบถ้วน เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่ แล้วจึงมาพิจารณาด้านราคา ดังนั้น การตัดสินให้ผู้ใดเป็นผู้ชนะการประกวดราคาได้นั้น คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา มิได้พิจารณาจากราคาต่ำสุดเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องพิจารณาข้อเสนอทางด้านเทคนิคและอุปกรณ์เป็นสำคัญ
เมื่อเอกชนรายดังกล่าวอุทธรณ์ ร้องเรียน กรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 กปน.ได้ดำเนินการหารือกรมบัญชีกลาง ตามหนังสือที่ มท 5450-3-1.2/17914 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2565 เรื่อง ขอหารือแนวทางการพิจารณาผลการเสนอราคา และแนวทางการดำเนินการตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือตอบกลับ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405/31807 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 สรุปใจความสำคัญว่า “หาก กปน. ดำเนินการพิจารณาผลการประกวดราคาใหม่ตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนได้แจ้งผลอุทธรณ์ให้ กปน.ทราบ กรณีดังกล่าว เมื่อ กปน. กลับไปพิจารณาผลการประกวดราคา ย่อมต้องพิจารณาผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ถูกต้องตามเงื่อนไขในประกาศและเอกสารประกวดราคาที่ กปน. กำหนด และให้เรียงลำดับรายที่คัดเลือกไว้ไม่เกิน 3 ราย” การดำเนินการดังกล่าวแสดงให้เห็นโดยแจ้งชัดว่า คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาได้ปฏิบัติตามข้อหารือและถูกต้องตรงตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
นายมานิต กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ในการประกวดราคาครั้งนี้ กปน. ยังได้เปิดโอกาสให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศและร่างเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์และร่างเอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 1 จำนวน 2 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 9 กันยายน – 1 ตุลาคม 2564 และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 19-25 ตุลาคม 2564 พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สนใจยื่นข้อซักถามได้อีกในช่วงประกาศประกวดราคา ซึ่ง กปน.ได้ชี้แจงข้อสอบถาม เพื่อให้มีความชัดเจนและมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมโดยเท่าเทียมกัน จากนั้นได้ประกาศเป็นสาธารณะให้ทราบทั่วกัน ผ่านทางเว็บไซต์ของ กปน. และกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 แต่ผู้อุทธรณ์มิได้วิจารณ์หรือเสนอแนะร่างเอกสารประกาศประกวดราคา และร่างเอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 1 เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ รายการละเอียดด้านวิศวกรรม (ข้อเสนอด้านเทคนิคที่ต้องพิจารณาคุณสมบัติและวัตถุประสงค์การ ใช้งานเป็นสำคัญ) ข้อ 1.1.2 เล่ม 2/8 ใบเสนอราคาและเอกสารแนบท้าย ข้อ 1.1.6 เล่ม 6/8 รายการละเอียดประกอบแบบเพิ่มเติมแต่อย่างใด ดังนั้น ผู้อุทธรณ์จึงใช้สิทธิอุทธรณ์ในครั้งหลังนี้อีกไม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนด เรื่อง การจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานรัฐที่ใช้สิทธิอุทธรณ์ไม่ได้ พ.ศ. 2560
สำหรับการพิจารณาอุทธรณ์ในครั้งหลังนี้ การพิจารณาได้เป็นไปตามหนังสือคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด กค (กอร) 0405.5/ว 374 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2562 โดยหากมีการอุทธรณ์ในประเด็นดังต่อไปนี้ ข้อ 2 กรณีเป็นเรื่องที่อุทธรณ์ไม่ได้ตามที่กำหนดในมาตรา 115 ประกอบกฎกระทรวงกำหนด เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานของรัฐที่ใช้สิทธิอุทธรณ์ไม่ได้ พ.ศ. 2560 ให้แจ้งผู้อุทธรณ์ด้วยว่า หากผู้อุทธรณ์ประสงค์จะโต้แย้งคำวินิจฉัยดังกล่าว ผู้อุทธรณ์มีสิทธิโต้แย้งโดยฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยจากหน่วยงานของรัฐ
ทั้งนี้ ในการพิจารณาพบว่า ผู้อุทธรณ์ทั้ง 2 ราย ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ประกาศไว้ในเอกสารประกวดราคา ตามรายละเอียดด้านวิศวกรรม (ข้อเสนอด้านเทคนิคที่ต้องพิจารณาคุณสมบัติและวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นสำคัญ) ซึ่ง กปน.ได้ส่งหนังสือแจ้งผลการพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ไปยังผู้อุทธรณ์ ลงวันที่ 22 มีนาคม 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้มีการคุ้มครองชั่วคราวในโครงการดังกล่าว โดย กปน. เตรียมลงนามสัญญากับผู้ชนะ คือ ITA Consortium ราคากลาง 6,526 ล้านบาท ล่าสุดศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ชะลอการลงนามไปก่อน จนกว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น. – สำนักข่าวไทย