fbpx

คุม 3 ตร.ตม.ฝากขังผัดแรก-อีก 1 ผู้ต้องหาติดต่อขอมอบตัววันนี้

กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – คุมตัว 3 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองฝากขังผัดแรก พร้อมค้านประกันตัว ขณะ “พ.ต.ต.จิรภัทร” อีก 1 ผู้ต้องหา ติดต่อขอเข้ามอบตัววันนี้


พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย พ.ต.ต.สรวิศ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1, ร.ต.ท.สุริยะ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน สายงานสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 และ ด.ต.พีระศักดิ์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังผัด แรกเป็นเวลา 12 วัน ในคดีร่วมกับพวกที่เป็นตำรวจและพลเรือน บุกอุ้มผู้เสียหายชาวจีน และล่ามหญิงจีนไปรีดทรัพย์เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท เพื่อไม่ให้ถูกจับ โดยผู้เสียหายให้ลูกชายโอนเงินให้ ก่อนได้รับการปล่อยตัว และเข้าแจ้งความเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา

3 ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันข่มขืนจิตใจผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงาน หากได้รับการประกันตัวคาดว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ยังคงให้การภาคเสธ โดยรับว่าอยู่ในชุดที่ไปจับกุมชาวจีน แต่ไม่ได้เรียกรับทรัพย์


ส่วน ร.ต.ท.ประวิต ที่เข้ามามอบตัวก่อนตำรวจ 3 นาย ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนได้คุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฝากขังไว้ก่อนแล้ว และไม่ได้รับการประกันตัว ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ

ขณะที่นายโอภาส นายหน้าที่รับทำบัตรประชาชนปลอมให้กับชาวจีนผู้เสียหาย ที่ถูกตำรวจสืบสวน สน.ดินแดง ตามจับได้เมื่อวานนี้ที่จังหวัดชัยภูมิ ขณะนี้ยังถูกสอบสวนอยู่ที่ สน.ดินแดง และจากประวัติพบว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และมีหมายจับเมื่อปี 2565 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก ในคดีการปลอมบัตรประชาชนเช่นกัน ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินคดีที่กรุงเทพมหานคร หรือส่งกลับไปที่จังหวัดพิษณุโลก

ส่วน พ.ต.ต.จิรภัทร สารวัตร กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนี ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวภายในวันนี้ แต่ยังไม่ทราบเวลาและสถานที่เข้ามอบตัว ซึ่งก็อาจเป็นการเข้าพบผู้บังคับบัญชาของตัวเองก่อน หรือมาที่ สน.ดินแดง เลยก็ได้ โดยคดีนี้ตำรวจขอศาลออกหมายจับแล้วรวม 6 คน โดยเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 5 นาย และพลเรือน 1 คน ที่เป็นคนชี้เป้า และทำบัตรประชาชนปลอมให้กับผู้เสียหาย


พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตัว พ.ต.ต.จิรภัทร สารวัตรกองกำกับสืบสวน บก.ตม.1 หนึ่งในผู้ต้องหาอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีนและล่ามชาวไทยที่ยังหลบหนีอยู่ว่า ล่าสุดตำรวจได้รับการประสานจากครอบครัวของ พ.ต.ต.จิรภัทร ว่าจะเข้ามามอบตัว โดยจะให้ตำรวจไปรับตัวที่ต่างจังหวัดแต่ยังไม่ระบุเวลาสถานที่ จากนั้นจะนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.ดินแดง

ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำนายโอภาส นายหน้ารับทำพาสปอร์ตให้กับผู้เสียหายชาวจีน โดยนายโอภาส รับว่าเป็นบุคคลเดียวกันที่นำผู้เสียหายชาวจีนไปสวมบัตรประชาชนและเป็นคนที่พาไปทำพาสปอร์ตในวันเกิดเหตุ แต่ยังคงปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือชี้เป้าให้กับแก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์

แต่เนื่องจากนายโอภาสมีหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเข้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นฯ และเป็นผู้สนับสนุนพนักงานเจ้าหน้าที่ปลอมบัตรประจำตัวประชาชนฯ ฉะนั้นเมื่อสอบปากคำเสร็จในช่วงคืนที่ผ่านมา จึงได้นำตัวไปส่งยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับเดิมก่อน ส่วนคดีปัจจุบัน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน บัญชีธนาคาร และบันทึกการใช้โทรศัพท์ มาประกอบคำให้การ หากพยานหลักฐานเพียงพอก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่นายโอภาส

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เมื่อปี 2565 นายโอภาสได้รับการติดต่อจากล่ามสาวชาวไทยว่า มีชาวจีนที่ต้องการทำบัตรประชาชน จึงได้ว่าจ้างนายโอภาส ดำเนินการช่วยเหลือในค่าจ้าง 500,000 บาท โดยนายโอภาส ได้ติดต่อกับบุคคลที่ตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และนัดหมายนายโอภาสไปทำบัตรประชาชนให้ชาวจีนที่จังหวัดชัยภูมิ หลังจากนั้นนายโอภาส ได้รับการติดต่ออีกครั้งจากล่ามสาวให้ช่วยเหลือในการทำพาสปอร์ต โดยให้ไปเจอกันกรมการกงสุล ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ในวันเกิดเหตุ ซึ่งบุคคลดังกล่าวรอพบอยู่ที่กรมการกงสุลด้วย โดยตอนนี้ตำรวจอยู่ในระหว่างขยายผลติดตามตัวบุคคลดังกล่าวและเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกบัตรประชาชนให้แก่ผู้เสียหายชาวจีนมาสอบสวนต่อไป ส่วนบรรยากาศที่ สน.ดินแดง ล่าสุดสามารถตรวจยึดรถในวันก่อเหตุได้จำนวน 4 คัน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง