ทำเนียบฯ 14 มี.ค. – รัฐบาลเพิ่มทางเลือกด้วยเลขท้าย 2-3 ตัว หวังสู้กับหวยใต้ดิน เพิ่มรางวัลแจ็กพอต หากไม่ถูกรางวัลสมทบถัดไปอีก 1 งวด
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก (N3) หวังเพิ่มช่องทางจำหน่ายสลากฯ ในรูปแบบดิจิทัล จากการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย เพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากแบบถูกกฎหมายมากขึ้น โดยผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามความต้องการ ช่วยลดการเสี่ยงโชคนอกระบบและผิดกฎหมายให้ลดน้อยลง
ส่วนสลากฯ 6 หลัก (L6) เพื่อเน้นนำไปใช้จำหน่ายบนแอปฯ เป๋าตัง ผ่านสลากดิจิทัล โดยไม่ต้องจัดพิมพ์เป็นกระดาษ ประกอบด้วยตั้งแต่ 000000-999999 จำหน่ายออกเป็นชุด ชุดละ 1 ล้านฉบับ/รายการ กำหนดหมายเลขไว้ล่วงหน้า (มีหมายเลขจำกัด) ไม่สามารถเลือกเลขซ้ำกันได้ในแต่ละชุด จำหน่ายทั้งแบบใบและแบบดิจิทัล เป็นรูปแบบเดียวกับที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก (N3) ประกอบด้วยหมายเลข 3 หลัก ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีการกำหนดหมายเลขไว้ในระบบ ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามความต้องการ ทุกๆ การซื้อ 1 รายการ จะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข (เป็นรูปแบบใหม่ที่สำนักงานสลากฯ ยังไม่เคยดำเนินการมาก่อน) เปิดจำหน่ายเฉพาะแบบดิจิทัล ด้านการจ่ายเงินรางวัล เงินรางวัลคิดเป็นร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่ายสลากฯ ในแต่ละงวด สลากฯ N3 มีเงินรางวัล 4 ประเภทได้แก่
รางวัล 3 ตรง (ถูกทุกหมายเลขและทุกตำแหน่ง) ร้อยละ 30
รางวัล 3 สลับหลัก (ถูกทุกหมายเลขแต่สลับตำแหน่ง) ร้อยละ 30
รางวัล 2 ตรง ถูกทุกหมายเลขและทุกตำแหน่ง ร้อยละ 39
และรางวัลพิเศษ (ตรงกับรางวัลพิเศษ) ร้อยละ 1
นอกจากนี้จะมีการสบทบเงินรางวัลกรณีที่งวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำเงินรางวัลในงวดนั้นไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไปอีก 1 งวด และหากไม่มีผู้ถูกรางวัลอีกให้นำเงินรางวัลส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
กระทรวงการคลังแจ้งว่า การกำหนดประเภทสลากฯ ทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าว เชื่อได้ว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากฯ เกินราคาได้ เนื่องจากเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสลากฯ ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งมีการกำหนดราคาซื้อ-ขายจากระบบการจำหน่ายได้เอง และการจำหน่ายสลากฯ N3 ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามความต้องการ เพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากฯ แบบถูกกฎหมายมากขึ้น ช่วยให้การเสี่ยงโชคนอกระบบและผิดกฎหมายลดน้อยลง นอกจากนี้การจำหน่ายสลากฯ ทั้ง 2 รูปแบบจะช่วยให้สำนักงานสลากฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีเงินนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินเพิ่มขึ้นด้วย
นายกรัฐมนตรีได้ย้ำในที่ประชุม ครม. ให้พิจารณาดำเนินการด้วยความรัดกุม รอบคอบและเหมาะสม โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขายที่เป็นผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ นอกจากนี้ให้พิจารณาข้อจำกัดในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยขายสลากแบบดิจิทัลด้วย รวมทั้งดูแลกลุ่มผู้ขายสลากฯ แบบใบ อาจมีรายได้ลดลงจากการถูกปรับลดจำนวนสลากฯ เนื่องจากมีการขายสลากฯ แบบดิจิทัลควบคู่กัน เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย