กรุงเทพฯ 10 มี.ค.- “บิ๊กโจ๊ก” เผยทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุปลอมบัตรประชาชนในพื้นที่ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี แล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ เบื้องต้น 2-3 คน ยังไม่พบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่มีผู้เสียหายหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟในพื้นที่ อ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ถูกปลอมแปลงบัตรประชาชนมากถึง 7 ใบ ซึ่งนำไปใช้ในการกระทำความผิด ทำให้เจ้าตัวมีคดีติดตัว ทั้งๆ ที่ไม่ได้ก่อเหตุ โดยรอง ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนในขณะนี้ เบื้องต้นพบว่า เจ้าของบัตรไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถูกนำบัตรประชาชนไปปลอมแปลงใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นทราบกลุ่มตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดแล้ว ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ เบื้องต้น 2-3 คน แต่ขอขยายผลให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ อยากฝากเตือนประชาชนว่าไม่ควรนำบัตรไปขาย หรือนำเอาไปให้คนอื่น บัตรของตัวเองต้องเก็บรักษาไว้เอง การเอาไปขายได้เงินมา 3,000-4,000 บาท แต่กลายเป็นผู้กระทำความผิดโดยไม่รู้ตัวนั้น ไม่คุ้มค่ากัน ส่วนผู้ที่นำบัตรประชาชนของผู้อื่นไปใช้ในการกระทำความผิด ก็มีความผิดด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ก่อนหน้านี้ นายภาคิน ผู้เสียหาย เคยให้ข้อมูลว่า เมื่อปีที่แล้ว เคยสมัครแอปฯ เงินกู้ออนไลน์แอปฯ หนึ่ง ซึ่งแอดมินของแอปฯ แจ้งว่าต้องให้ส่งรูปถ่ายบัตรประชาชน พร้อมถ่ายรูปของตนร่วมกับบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนสมัครใช้แอปฯ พร้อมเสียค่าธรรมเนียมอีก 500 บาท เพื่อขอกู้เงิน 50,000 บาท แต่สุดท้ายเงินกู้ก็ไม่ได้รับอนุมัติ ตนต้องถูกหลอกเสียเงินฟรีไป 500 บาท และยังถูกนำบัตรประชาชนไปปลอมแปลงก่อคดีอีกนับสิบคดี โดยครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2565 นำไปใช้หลอกโอนเงินมัดจำซื้อขายรถจักรยานยนต์ในเพจซื้อขายรถมือสองแห่งหนึ่ง โดยมิจฉาชีพได้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนแปลงชื่อ นามสกุลบนบัตรของตนเอง แล้วนำไปใช้เป็นหลักฐานส่งให้ผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินมัดจำมาให้แล้วเบี้ยวไม่ยอมส่งมอบรถ จนผู้เสียหายไปแจ้งความและมีการตรวจสอบเลขประจำตัวบนบัตรประชาชนใบดังกล่าวจนพบว่าเป็นบัตรของตน ตนจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจว่าตนถูกปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชน.-สำนักข่าวไทย