พังงา 7 มี.ค.- ลุ้นออกสลากรูปแบบใหม่ “L6 -N3” หรือ “สลากดิจิทัล-สลาก2-3 ตัว” ก.คลัง ส่งเข้า ครม.พิจารณา 14 มี.ค.นี้ หวังแก้ปัญหาขายสลากเกิน 80 บาท-หวยใต้ดิน ยืนยันหากไม่ทันพร้อมดันรัฐบาลชุดหน้าสานต่อ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการออกสลากรูปแบบใหม่ ลอตเตอรี่ 6 หรือ L6 และ สลากเลข 3 หลัก หรือ N3 โดยระบุว่าในสัปดาห์หน้า (14 มี.ค.66) ต้องติดตามว่าเรื่องดังกล่าวจะมีการนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาหรือไม่ ภายหลังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ และได้นำเสนอข้อมูลทั้งหมดให้กระทรวงการคลังนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.แล้ว
โดยเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะทันการพิจารณาของครม.ชุดนี้ อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถเข้าพิจารณาในครม.ชุดนี้ได้ทันสำนักงานสลากฯ ก็พร้อมที่จะเสนอรูปแบบการออกสลากใหม่ในครม.ชุดหน้า
สำหรับ สาระสำคัญสำหรับสลากรูปแบบใหม่ประเภท L6 หรือ สลากดิจิทัล หากผ่านการอนุมัติจากครม.สำนักงานสลากฯ สามารถดำเนินการเพิ่มปริมาณสลาก เข้าสู่ระบบได้ทันที แต่จะเพิ่มจำนวนเท่าใด คณะกรรมการฯ จะมีการพิจารณา โดยค่อยๆทยอยเพิ่มจำนวนขึ้น จากปัจจุบันมีสลากดิจิทัลจำหน่ายแล้ว 17 ล้านฉบับ จะเพิ่มเป็น 18 ล้านฉบับและ 20 ล้านฉบับ จากนั้นจะเพิ่มถึง 30 ล้านฉบับภายในสิ้นปีนี้หรือกลางปีหน้า โดยมีเพดานสุดท้ายอยู่ที่ 40 ล้านฉบับ ซึ่งเชื่อว่า หากมีการจำหน่ายสลากดิจิทัล เกินกว่า 40-50% ของระบบ จากสลากทั้งหมด 100 ล้านใบจะช่วยแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา 80 บาทได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ราคาสลากแบ่งรัฐบาลที่จำหน่ายทั่วไปกลับมาขายในราคาใกล้เคียงกับ 80 บาทได้
“สำนักงานสลากฯ เห็นว่าประชาชนบางส่วนอาจจะไม่คุ้นเคยกับการซื้อสลากดิจิตอลผ่าน application เป๋าตังค์ ขณะที่บางคนยังมีพฤติกรรมต้องการเลือกซื้อสลากเป็นใบ จึงจะค่อยๆเพิ่มปริมาณสลากเข้าไปในระบบและเชื่อว่าน่าจะถึงจุดสมดุลย์ได้ในช่วงกลางปีหน้า”นายธนวรรธน์ กล่าว
กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังกล่าวอีกว่า ส่วนสลากประเภท รูปแบบใหม่ประเภท “N3” หรือ สลากเลข 3 หลัก ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา รวมถึงปัญหาหวยใต้ดินนั้น หากผ่านการพิจารณาของครม.แล้ว สำนักงานสลากคาดว่าจะสามารถเริ่มจำหน่ายได้ภายใน 6 เดือน
โดยเมื่อผ่านครม.คณะกรรมการผลิตภัณฑ์ใหม่ จะต้องพิจารณารายละเอียด และทางเลือกในการออกสลาก N3 คือ1.ราคาจำหน่ายสลาก จากเดิมที่มีการประชาพิจารย์พบว่าราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 50 บาทต่อ 1 ใบแต่คณะกรรมการมีการตั้งข้อสังเกตว่าราคา 50 บาทอาจสูงเกินไปจึงอาจพิจารณาลดราคาเป็นในช่วง 20-40 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน ซื้อสลากที่ถูกกฎหมายในราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ประชาชนปฏิเสธสลากที่ขายเกินราคา ขณะเดียวกันหากมีการจำหน่ายสลาก N 3 ราคาสูงเกินไป วัตถุประสงค์ที่จะดึงเงินจากหวยใต้ดิน ก็จะทำได้ยากขึ้น
2.การพิจารณาระบบการขาย ซึ่งระบบที่เร็วที่สุดคือการขายผ่าน application “เป๋าตัง” หากครม.อนุมัติก็สามารถดำเนินการได้ทันที หรือ ระบบการขายผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เหมือนมือถือ ซึ่งผู้ขายสามารถนำติดตัวไป ณ จุดขายหรือสามารถเดินเร่ขายได้ ซึ่งจะถูกจริตคนไทยเพราะสามารถเลือกซื้อที่ใดก็ได้ใกล้เคียงกับหวยใต้ดิน และสุดท้ายคือการขายผ่านทั้ง 2 ระบบ สำนักงานสลากจะต้องควบคุมว่าผู้ขาย 1 คนจะสามารถขายได้กี่หมายเลข เพื่อให้ผู้ขายสลาก L6 หรือ N3 มีรายได้ใกล้เคียงกัน หรือจะสามารถขายสลากได้ทั้ง 2 ชนิด
และ3.ระบบการคัดเลือกตัวแทนขายที่อาจต้องมีการเปิดลงทะเบียนใหม่ ซึ่งในส่วนนี้จะมีการพิจารณาภายหลังได้รับการอนุมัติจากครม.แต่ต้องดูว่าครม.มีข้อท้วงหรือข้อสังเกตอื่นใดหรือไม่ หากครม.อนุมัติก็ยืนยันว่าสำนักงานสลากพร้อมดำเนินการได้ทันที
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังมีแนวคิดในการพิจารณาการออกรางวัลด้วยว่าจะใช้การออกรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาลปกติโดยใช้รางวัลเลขท้าย 2-3 ตัวเหมือนเดิมหรือ จะแยกออกรางวัลออกมาเป็นรางวัลใหม่เพื่อทำให้ผู้ซื้อเห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างแท้จริง เหมือนซื้อหวยใต้ดินแต่ถูกกฎหมาย ซึ่งมีงานวิจัยชัดเจนว่า การขายสลาก2- 3 ตัวหรือหวยบนดินในอดีต ทำให้ประชาชน หันมาซื้อหวยบนดินเพราะเป็นเรื่องถูกกฎหมาย
ดังนั้น จึงเชื่อว่า สลากแบบ N3 จะได้ประโยชน์ ทั้งในส่วนของการช่วยตรึงราคาทำให้การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลมีราคาไม่เกินราคา 80 บาท และช่วยทำให้การซื้อหวยใต้ดินลดลง เมื่อประชาชนเห็นว่า สลากแบบ N3 มีราคาใกล้เคียงกับหวยใต้ดิน แต่ถูกกฎหมายประชาชนจะหันมาเลือกซื้อมากขึ้นเพราะไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเบี้ยวจากเจ้ามือหวยเถื่อน เพราะรัฐจ่ายเต็ม ขณะเดียวกันยังสามารถนำเงินที่ได้ 23% มาเป็นรายได้แผ่นดินใช้พัฒนาประเทศได้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย