คลังหารือ ธปท. ดันเงินเฟ้อร้อยละ 2 หนุนเศรษฐกิจโตร้อยละ 3

ก.คลัง 29 ต.ค. – คลังหารือ ธปท. จับมือร่วมเคลียร์หนี้ เติมเงินใหม่ หนุนการลงทุน ดันเศรษฐกิจโตร้อยละ 3 ในปี 68 เข็นเงินเฟ้อร้อยละ 2


นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อร่วมกันผลักดันเงินเฟ้อเฉลี่ยให้ได้ร้อยละ 2 จากกรอบเงินเฟ้อร้อยละ 1-3 ในปัจจุบัน เพราะกรอบเงินเฟ้อไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทุกปี เนื่องจากเห็นว่ากรอบเงินเฟ้อเป็นปัจจัยปลายเหตุ คลังและ ธปท.จึงต้องหารือร่วมกันให้ได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันในการทำให้นโยบายการเงินและการคลังสอดคล้องกัน ประกอบด้วย

  1. การประสานนโยบายการเงินและการคลัง ผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตร้อยละ 2.7 ในปี 67 และขยายตัวเพิ่มร้อยละ 3 ในปี 68 เมื่อ ธปท.เข้าใจเจตนาของรัฐบาล จึงต้องดูแลค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับค่าเงินของประเทศเพื่อนบ้านและประเทศคู่แข่งทางการค้า

2.การร่วมกันส่งเสริมให้เกิดการลงทุน ดูแลผู้มีรายได้น้อย ประชาชนขาดกำลังซื้อ การปรับโครงสร้างหนี้ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ปัญหาหนี้บ้านอยู่อาศัย หนี้รถยนต์ จะได้มีกำลังหลับมาขอกู้ใหม่ เพื่อประกอบอาชีพ ดังนั้นการส่งเสริมให้เกิดการลงทุน จะส่งผ่านแนวคิดไปยัง กนง. ต้องพิจารณาลดดอกเบี้ย เพื่อทำให้เกิดสภาพคล่องในตลาด จากนั้นอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มขยับสูงขึ้น เพื่อทำให้ได้ค่าเฉลี่ยร้อยละ 2 จากกรอบเงินเฟ้อร้อยละ 1-3


3.กระทรวงการคลัง ยังเสนอให้ ธปท. มุ่งดูแลค่าเงินบาท เคลื่อนไหวสอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้านและคู่แข่งทางการค้า เพราะไทยยังพึ่งพาการส่งออก ผสมผสานกับนโยบายดอกเบี้ย เพื่อดูแลเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว ทั้งค่าเงินและดอกเบี้ย จะได้ช่วยผลักดันเศรษฐกิจฟื้นตัว

ในส่วนของรัฐบาลต้องเดินหน้าผลักดันเรื่องการลงทุน การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุนผ่านบีโอไอ ส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานสีเขียว อุตสาหกรรมดูแลสิ่งแวดล้อม การยกระดับฝึมือแรงงาน รองรับการลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นนโยบายแห่งชาติ ลงทุนด้านเกษตรสมัยใหม่ ไบโอชีวภาพ เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ทั้งแลนด์บริดส์ ระบบโลจิสติกส์ เชื่อมโยงการค้ากับจีน

คลังและแบงก์ชาติ จะประชุมอีกหลายรอบ หากผลักดันจีดีพีเติบโตในกรอบร้อยละ 3.2-3.5 เงินเฟ้อเฉลี่ยร้อยละ 1.5 จีดีพีของประเทศมูลค่า 20 ล้านล้านบาท จะทำให้มีช่องว่างในการสร้างหนี้สาธารณะ นำกู้เงินมาบริหารประเทศ 7.7 แสนล้านบาท อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง หนี้สาธารณะร้อยละ 75 ของจีดีพี เมื่อ ธปท.จัดทำข้อเสนอสรุปได้ในอีก 2 สัปดาห์ จากนั้นจะนำเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาในเดือนธันวาคมนี้. -515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก