เร่งดับไฟป่า อช.น้ำตกคลองแก้ว พื้นที่ทุ่นระเบิดแนวชายแดน

ตราด 5 มี.ค.- กรมอุทยานฯ เร่งหาแนวทางดับไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว จ.ตราด ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เหตุใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีทุ่นระเบิด ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เข้าควบคุมไฟให้ได้โดยเร็ว ขณะนี้เสียหายแล้วกว่า 1800 ไร่

นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ. 2) (ศรีราชา) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าน้ำตกคลองแก้วยังคงติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้วตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้เนื่องจากบริเวณที่ไฟลุกไหม้เป็นพื้นที่ความมั่นคง ห่างจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 3 กิโลเมตรและมีทุ่นระเบิดอยู่


ทั้งนี้ไฟป่าลุกลามข้ามจากประเทศกัมพูชา มายังบริเวณเนิน 400 (จุดผ่อนปรนบ้านมะม่วง) มีได้รับพื้นที่ความเสียหายประมาณ 400 ไร่ ต่อมาพบไฟป่าเพิ่มอีก 1 จุดบริเวณแนวชายแดนใกล้กับฐานเจ้าพระยาซึ่งยังอยู่ในพื้นที่ความมั่นคงที่มีทุ่นระเบิดเช่นกัน โดยไฟลุกลามทำให้เกิดความเสียหายกว่า 1,200 ไร่

นายก้องเกียรติกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เนื่องจากการเข้าพื้นที่ต้องอยู่ในดุลพินิจของทหารเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าน้ำตกคลองแก้วและหน่วยอื่นๆ ของสบอ. 2 ร่วมกันทำแนวกันไฟบริเวณนอกแนวทุ่นระเบิดเพื่อควบคุมและทำให้ไฟป่าอยู่ในวงจำกัด โดยระหว่างทำแนวกันไฟรอบเนิน 400 มีการระเบิดของทุ่นระเบิดเป็นระยะๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหลบเพื่อความปลอดภัย


ล่าสุดนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินไฟป่าในท้องที่อำเภอบ่อไร่ พร้อมได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดตราด ณ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเข้มแข็ง บ้านทับทิมสยาม01 และเรียกส่วนราชการต่างๆ ในท้องที่ตำบลด่านชุมพลและนนทรีย์ร่วมกันบูรณาการในการควบคุมไฟป่า ขณะนี้มีรายงานความเสียหายของพื้นที่ประมาณ 1800 ไร่

นายธนวรรธห์ กิตติ์ภานุวัฒน์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าน้ำตกคลองแก้วกล่าวว่า เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ลงเรือไปดับไฟป่าบริเวณนอกพื้นที่ความมั่นคงและทหารรับรองว่า ปลอดทุ่นระเบิด โดยในปี 2563 ระหว่างที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าดับไฟป่าในอุทยานแห่งชาติคลองแก้วใกล้แนวชายแดน พบทุ่นระเบิดถึง 3 ทุ่น ดังนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจึงย้ำว่า การปฏิบัติงานขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง