พล.ม.2 24 พ.ค.-ผบ.พล.ม. 2 รอ.ระบุ ที่ผ่านมาเตรียมแผนดูแลความปลอดภัยเฉพาะพื้นที่ทั่วไป คิดไม่ถึงจะเข้ามาก่อเหตุในโรงพยาบาล ต้องเพิ่มมาตรการดูแลเข้มงวดขึ้น
พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์(ผบ.พล.ม.2 รอ.) กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่าง ๆ หลังเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่า การดูแลความเรียบร้อยจะดูแลตามภัยคุกคาม ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ สถานพยาบาล ศาสนสถานและโรงเรียน เป็นสถานที่ที่ไม่คิดว่าจะมีการก่อเหตุ จึงเน้นดูแลพื้นที่ทั่วไป พื้นที่สาธารณะ แหล่งชุมชนต่าง ๆ แต่เมื่อมีการวางเป้าหมายในการก่อเหตุลักษณะนี้ จึงต้องเพิ่มมาตรการดูแลในส่วนนี้ ยืนยันว่า มาตรการการดูแลในแต่ละพื้นที่สามารถป้องกันเหตุร้ายได้ เพราะการเข้าออกพื้นที่มีการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะคนหรือรถที่เข้าออก
“ผู้บังคับบัญชาเน้นย้ำว่าจุดเข้าออกสถานที่ต่าง ๆ ต้องติดตั้งกล้อง CCTV ส่วนภาพที่มีชาย 3 คนนั่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุระเบิดในโรงพยาบาล จะสามารถเชื่อมโยงและจับตัวผู้กระทำผิดได้หรือไม่ ต้องไปคุยกับทางด้านสืบสวน เบื้องต้นทราบว่เป็นภาพที่ถ่ายมาจากการถ่ายเซลฟี่ของผู้ที่เข้าไปใช้บริการในโรงพยาบาล แต่บังเอิญถ่ายติดภาพดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบบุคคลที่อยู่ในภาพน่าจะเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย” ผบ.พล.ม. 2 รอ. กล่าว
ส่วนพื้นที่ที่เป็นบ้านพักผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะตรึงกำลังและเพิ่มมาตรการการดูแลเข้มงวดหรือไม่ พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า มาตรการดูแลความเรียบร้อยมีอยู่แล้ว เพราะการรักษาความปลอดภัยปกติจะดูแลในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ก็คือ พื้นที่ชุมชน ยอมรับว่าในหลายพื้นที่ ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง เช่น ในตรอก ซอยต่าง ๆ เป็นเกณฑ์เสี่ยงที่ต้องยอมรับ ซึ่งบริเวณพื้นที่เป้าหมายเดิม ผู้ก่อเหตุมักก่อเหตุย่านชุมชน หรือแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดิสเครดิต
“เมื่อมีการก่อเหตุในพื้นที่เปราะบางที่ไม่มีใครกระทำเช่นนี้ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ไม่ได้คิดว่าจะมีภัยคุกคามเช่นนี้ โดยโรงพยาบาลจะมีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความเรียบร้อยทั่วไป เช่น การวิ่งราวเท่านั้น ส่วนพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับทหารจะตกเป็นเป้าหมายหรือไม่ ต้องเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย ไม่ใช่เพียงพื้นที่ของทหารเท่านั้น แต่รวมถึงพื้นที่ส่วนราชการต่าง ๆ ด้วย ซึ่งแต่ละสถานที่มีคนดูแลรับผิดชอบจะมีมาตรการและระบบรักษาความปลอดภัย การตรวจคนเข้าออกชัดเจนอยู่แล้ว พื้นที่ที่มุ่งเน้นขณะนี้จึงเป็นพื้นที่สาธารณะ เช่น ศูนย์การค้าต่างๆ จะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนให้ดำเนินชีวิตได้ตามปกติ” ผบ.พล.ม. 2 รอ. กล่าว
ส่วนกระแสข่าวว่าโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้รับจดหมายขู่จากกลุ่มบีอาร์เอ็น พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า ต้องไปตรวจสอบจากโรงพยาบาล เพราะหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงไม่ได้รับข้อมูลก่อนหน้านี้ โดยยอมรับว่าจากสายข่าวมีความเป็นไปได้ เพราะมีการรายงานถึงกลุ่มที่มีขีดความสามารถก่อเหตุได้ 1-2 กลุ่ม ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุจะคุกคามในพื้นที่ที่มีเจ้าหน้าที่และสถานที่ราชการ ไม่มีเป้าหมายที่กระทบต่อประชาชน แต่ในขณะนี้ผู้ก่อเหตุดึงประชาชนผู้บริสุทธิ์เข้ามาร่วม การกระทำเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย
“ประชาชนต้องกลับมาตระหนักและผนึกกำลังช่วยกันดูแลสังคมและมีปฏิสัมพันธ์กันเหมือนสังคมชนบทในอดีต ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่เหมือนสังคมเมือง ซึ่งจะกลายเป็นช่องว่างให้ก่อเหตุได้ ยืนยันว่าขณะนี้มีความระมัดระวัง แต่ไม่ต้องถึงขั้นตระหนกหรือกังวล เรามีมาตรการการดูแลความเรียบร้อยอย่างชัดเจน” ผบ.พล.ม. 2 รอ. กล่าว
ส่วนโรงพยาบาลเอกชนจะประสานงานเข้าไปดูแลความปลอดภัยหรือไม่ พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า ต้องเข้าไปประสานงานด้านการรักษาความปลอดภัยและตรวจสอบกล้องซีซีทีวีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผบ.พล.ม. 2 รอ. ให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวภายหลังให้การต้อนรับพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อเดินทางไปตรวจเยี่ยมกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี และติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกสาขานิคมอุตสาหกรรมทวาย รวมทั้งตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของส่วนราชการบริเวณจุดผ่านแดนบ้านพุน้ำร้อน โดยก่อนเดินทางไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ทั้งนี้ ก่อนที่ผู้บัญชาการทหารบกจะเดินทางถึงพล.ม. 2 รอ.ได้มีหน่วยเก็บกู้ระเบิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ(อีโอดี) เข้ามาตรวจความเรียบร้อยในห้องรับรองผู้บัญชาการทหารบกที่จะต้องมารอพักก่อนเดินทาง รวมทั้งตรวจสอบบริเวณโดยรอบลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานด้านการเก็บกู้ระเบิดจากภายนอกเข้ามาตรวจ.-สำนักข่าวไทย