พรรครวมไทยสร้างชาติ 16 ก.พ. – “แรมโบ้อีสาน” ลั่นมองไม่เห็นใครมีความเหมาะสมมาแข่งตำแหน่งนายกฯ เท่า “พล.อ.ประยุทธ์” พรรคอื่นเป็นแค่คู่เทียบ แนะคนโคราชเลือกคนติดดิน ขยัน มีคุณภาพ มาเป็น ส.ส.
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องการนายกรัฐมนตรีที่ใจซื่อมือสะอาด ทุ่มเททำงาน นายกฯ ลูกอีสาน มาทำงานให้คนอีสานและคนโคราช ดังนั้นพรรคไม่มีนโยบายในเรื่องของการใช้เงินซื้อเสียง และจะขายผลงาน ขายลูกอีสาน ขายคนที่ทำงานติดดิน คนที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสิ่งสำคัญเราจะขายความเป็นนายกฯ ผู้นำที่ใจซื่อ มือสะอาด ไม่คิดเรื่องทุจริต ไม่คิดเรื่องโกงกิน ไม่คิดเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตัว และไม่เคยมีคดีเรื่องโกงใดๆ ไม่เคยถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน และสร้างบ้านเมืองให้เกิดความสามัคคีปรองดอง
“ให้ย้อนกลับไปดูคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี มาเป็นคู่แข่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมองไม่เห็นคนที่เหมาะสม และไม่มีคนที่จะมาเทียบได้ เรายังมั่นใจ นายกฯ ลุงตู่ ดีที่สุดในการที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป คนอื่นที่จะมาเป็นคู่เทียบ ผมยังมองไม่เห็นใครจะเปรียบเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เลย ดูจากการทุ่มเททำงาน ความตั้งใจทำงาน หรือทำให้บ้านเมืองสงบสุข เรื่องของความโปร่งใส ไม่มีการกล่าวหาเรื่องการทุจริต โกง คอร์รัปชันต่างๆ ฉะนั้นเชื่อมั่นว่า นายกฯ ลุงตู่ ขายได้อย่างแน่นอน และเสียงของพี่น้องประชาชนคือเสียงสวรรค์ ที่จะช่วยให้ลุงตู่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยเฉพาะที่นั่ง ส.ส.ในภาคอีสาน 132 ที่นั่ง พรรคก็หวังจะได้ให้ได้มากที่สุด” นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา 16 เขตเลือกตั้ง การแบ่งเขตขณะนี้ยังไม่ชัดเจน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังไม่ประกาศเขตให้ชัดเจนว่า แต่ละเขตอยู่ในอำเภออะไรบ้าง ขอให้รอความชัดเจนในเรื่องนี้ก่อน สำหรับตนได้รับมอบหมายให้ดูแลภาคอีสาน ต้องไปช่วยปราศรัยหาเสียงในหลายพื้นที่ คงไม่มีเวลาจะลงหลักปักฐานหาเสียงในเขตพื้นที่ของตัวเองที่เคยเป็น ส.ส. คือ เขตครบุรี-เสิงสาง จึงไม่ลงสมัครในเขตนี้ แต่ก็มีน้องชายจะลงสมัครได้ แต่ตนเป็นคนไม่ยึดติดกับเรื่องของนามสกุล หรือความเป็นพี่เป็นน้อง ถึงแม้ว่าตนจะเคยเป็น ส.ส.ในเขตดังกล่าว แต่เมื่อทำโพลแล้ว ระหว่างน้องตนกับนายชยุต พงศ์ธนทรัพย์ สมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมา เขตครบุรี-เสิงสาง คะแนนดีกว่า ตนก็ต้องเลือกเอาคนที่ดีที่สุดก็คือ นายชยุต เป็นตัวแทนลงสมัครแทนน้องชาย ส่วนตนก็ไปลงในบัญชีรายชื่อแทน ซึ่งนายชยุตก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำผลงานมาตลอด ได้รับความชื่นชมจากพี่น้องประชาชน
“ถ้าพรรคการเมืองไหนจะใช้เงินเพื่อการซื้อเสียง เป็นหน้าที่ของ กกต. ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ใครทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการทันที ถูกตัดสิทธิ ถูกใบเหลือง ใบแดง ก็ว่ากันหลังการเลือกตั้ง ทั้งนี้ อยากบอกพี่น้องประชาชนว่า การจะเลือก ส.ส. มาเป็นผู้แทน ต้องเลือกผู้แทนที่ติดดิน ขยัน มีคุณภาพ และสามารถที่จะเชื่อมงานต่อกับนายกรัฐมนตรี กับรัฐบาลได้ในอนาคต นั่นคือต้องเลือก ส.ส. ที่สังกัดพรรคเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ” นายเสกสกล กล่าว.-สำนักข่าวไทย