เจ้าของอู่เข่าทรุด โดนแอปฯ ดูดเงิน 1.5 ล้าน

ชุมพร 7 ก.พ. – เจ้าของอู่รถใน จ.ชุมพร เข่าทรุด ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ ขอตรวจสอบฐานข้อมูล หลงเชื่อคุยแค่ 10 นาที โดนดูดเงินจากแอปฯ กว่า 1.5 ล้านบาท พ้อธนาคารดำเนินการอายัดได้ช้ามาก แถมแจ้งความเรื่องยังเงียบ


นายวีรพันธ์ พรหมเทพ อายุ 42 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถในจ จ.ชุมพร เล่าว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ขณะกำลังทำงานอยู่ที่ร้าน มีโทรศัพท์โทรมาบอกว่าโทรมาจากกระทรวงพาณิชย์ ต้องการตรวจสอบผู้ประกอบการเพื่ออัปเดตฐานข้อมูล จากนั้นมีการพูดคุยเรื่องธุรกิจที่ตนทำอยู่ เพราะกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพ เนื่องจากมีข่าวบ่อยครั้ง ตนจึงสอบถามข้อมูลกับปลายสาย ซึ่งสามารถตอบข้อมูลได้ถูกต้องครบถ้วน โดยพูดคุยกันประมาณ 5-10 นาที ตนจึงแจ้งไปว่าให้โทรมาช่วงบ่าย เพราะขณะนี้ตนเองกำลังติดลูกค้าไม่สะดวกคุย

จากนั้นมิจฉาชีพเพิ่มเพื่อนจากแอปพลิเคชันไลน์เข้ามาพูดคุย พร้อมส่งข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลของบริษัทมาให้ตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นถูกต้องหรือไม่ เพื่ออัปเดตข้อมูลของบริษัทใหม่ ซึ่งข้อมูลที่มิจฉาชีพส่งมาให้ดูผ่านช่องทางไลน์เป็นข้อมูลที่ถูกต้องทุกอย่าง ตนจึงยืนยันความถูกต้องของข้อมูลกลับไปทางไลน์


ต่อมามิจฉาชีพส่งเป็นลิงก์ของกระทรวงพาณิชย์ มีโลโก้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ตนจึงกดลิงก์ทันที หลังจากนั้นหน้าจอโทรศัพท์ก็กลายเป็นสีดำ และมีตัวเลขวิ่งอยู่หน้าจอ ขณะนั้นมั่นใจแล้วว่าตนเองโดนแฮกข้อมูลและถูกดูดเงินออกจากบัญชีอย่างแน่นอน เพราะมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์อีกเครื่องว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีถึง 3 ครั้ง

ครั้งแรกถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส.สุพรรณนา เป็นจำนวนเงิน 1,400,000 บาท ครั้งที่ 2 ถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี น.ส.ศิริวรรณ จำนวน 89,000 บาท และครั้งที่ 3 ถูกโอนไปยังบัญชีพร้อมเพย์ ชื่อบัญชี น.ส.สุพรรณษา จำนวนเงิน 47,355 บาท โดยแต่ละครั้งใช้ระยะเวลาห่างกัน 2 นาที

นายวีรพันธ์ เล่าต่อว่า รู้สึกแปลกใจว่าทำไมพวกมิจฉาชีพจึงรู้ข้อมูลของตนอย่างละเอียด ถามอะไรไปก็ตอบได้ถูกต้องหมดทุกอย่าง ทำให้หลงเชื่อ ความสูญเสียครั้งนี้เป็นเงินจำนวนมาก ไม่รู้จะเรียกร้องจากใครได้ เพราะธนาคารกว่าจะอายัดบัญชีได้ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง ส่วนทางคดีไม่มีอะไรคืบหน้าเลย


จึงอยากฝากเตือนให้ระวังอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ แม้ตนเองจะระมัดระวังที่สุดแล้วยังหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนสูญเงินนับล้านบาท และฝากถึงทางธนาคารควรปรับปรุงระบบการป้องกันให้เท่าทันมิจฉาชีพ เช่น การโอนเงิน ควรใช้ระบบสแกนใบหน้าเป็นภาพเคลื่อนไหว เชื่อว่าจะป้องกันได้ ตอนนี้ตนใช้วิธีป้องกันตนเองด้วยการซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ใช้เฉพาะแอปฯ ธนาคาร เพื่อใช้เกี่ยวกับธุรกรรมเท่านั้น ไม่โหลดลิงก์ ไม่โหลดไลน์ ไม่ใช้เฟซบุ๊ก ไม่ใช้อินเทอร์ไวไฟแต่อย่างใด และปิดเครื่องเมื่อไม่ใช้ จะเปิดเครื่องเฉพาะเวลาจะทำธุรกรรมเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก